พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า 11 - 17 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ข่าวทั่วไป Wednesday December 11, 2019 14:29 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 11 - 17 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ออกประกาศวันพุธที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2562

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 148/62

การคาดหมายลักษณะอากาศในช่วงวันที่ 11-12 ธ.ค.62 ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียสกับมีหมอกบางในตอนเช้า แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในบริเวณพื้นราบของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิต่ำสุด 8-16 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 1-8 องศาเซลเซียส สำหรับภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-24 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 13-17 ธ.ค.62 ประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ แต่ยังคงมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิต่ำสุด 10-21 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-13 องศาเซลเซียส สำหรับภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-25 องศาเซลเซียส สำหรับภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนเพิ่มขึ้น

คำเตือน บริเวณประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิจะสูงขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ เกษตรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมทั้งควรเพิ่มความระมัดระวังในขณะสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย

คำแนะนำสำหรับการเกษตร

ภาคเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 11-13 ธ.ค. บริเวณพื้นราบอากาศหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 8-15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-29 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัดกับมีน้ำค้างแข็ง อุณหภูมิต่ำสุด 1-6 องศาเซลเซียส

ในช่วงวันที่ 14-17 ธ.ค. บริเวณพื้นราบอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 10-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-8 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %

  • ระยะนี้อุณหภูมิจะสูงขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย สำหรับผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้ว ไม่ควรตากไว้กลางแจ้งข้ามคืน เพราะอาจเปียกชื้นเสียหายจากหมอกและน้ำค้างได้ นอกจากนี้ควรเพิ่มความระมัดระวังในขณะสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 11-12 ธ.ค. บริเวณพื้นราบอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 10-16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-28 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 2-8 องศาเซลเซียส

ในช่วงวันที่ 13-17 ธ.ค. บริเวณพื้นราบอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 50-60 %

  • ระยะนี้อุณหภูมิจะสูงขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย รวมทั้งควรเพิ่มความระมัดระวังในขณะสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย สำหรับผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้ว ไม่ควรตากไว้กลางแจ้งข้ามคืน เพราะอาจเปียกชื้นเสียหายจากหมอกและน้ำค้างได้ ส่วนเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำ ควรควบคุมปริมาณการให้อาหารอย่างเหมาะสม โดยลดปริมาณอาหารลง เนื่องจากในช่วงอุณหภูมิต่ำสัตว์น้ำจะกินอาหารได้น้อยลง หากมีปริมาณอาหารเหลือจะสะสมตามพื้นบ่อ ส่งผลให้น้ำเน่าเสีย เกิดก๊าซพิษ และมีผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์น้ำ

ภาคกลาง

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 11-13 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-30 องศาเซลเซียส

ในช่วงวันที่ 14-17 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %

  • ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิจะสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เนื่องจากหมอกและฝุ่นในอากาศ โดยหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายในที่โล่งแจ้ง หากมีความจำเป็นต้องอยู่ในที่โล่งแจ้งหรืออยู่ภายนอกอาคารบ้านเรือน ควรสวมหน้ากากอนามัย สำหรับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์ปีก เช่น ไก่ เป็ด เป็นต้น ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคตะวันออก

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 11-12 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส

ในช่วงวันที่ 13-17 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %

  • ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง อุณหภูมิจะสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย รวมทั้งควรเพิ่มความระมัดระวังขณะสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา จากสภาพอากาศที่แห้งทำให้ปริมาณการระเหยของน้ำมีมาก เกษตรกรควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชตามความเหมาะสม เพื่อป้องกันพืชชะงักการเจริญเติบโต

ภาคใต้

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 11-12 ธ.ค. ทางตอบบนของภาคมีอากาศเย็น ส่วนทางตอนล่างของภาคมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส

  • ในช่วงวันที่ 13-17 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นประมาณ 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %
ฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 11-13 ธ.ค. มีเมฆบางส่วน

ในช่วงวันที่ 14-17 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

  • ตอนบนของภาคมีฝนน้อย เกษตรกรควรวางแผนการใช้น้ำที่กักเก็บไว้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ตลอดช่วงแล้ง ส่วนทางตอนล่างของภาคยังมีฝนบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผลไว้ด้วย ส่วนพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมในระยะที่ผ่านมา หากน้ำลดระดับลงแล้ว ควรรีบฟื้นฟูสภาพสวนและแหล่งน้ำให้ไช้งานได้ดังเดิม อนึ่ง บริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมง เดินเรือด้วยความระมัดระวัง
ลักษณะอากาศในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ระหว่างวันที่ 4-10 ธันวาคม 2562 บริเวณประเทศไทยไม่มีรายงานฝนตกหนักมาก ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักบริเวณจังหวัดปัตตานีและนราธิวาส โดยปริมาณฝนสูงสุด วัดได้ 57.2 มม. ที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 62

ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ