พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 23 – 29 ธันวาคม พ.ศ. 2562
ออกประกาศวันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2562
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 153/62
การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 23 - 27 ธันวาคม 62 ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้ากับมีหมอกหนา ในบางพื้นที่ บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส โดยบริเวณพื้นราบอุณหภูมิต่ำสุด 12-21 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภูจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-13 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย สำหรับภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 28 - 29 ธันวาคม 62 ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิลดลง โดยในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส บริเวณพื้นราบอุณหภูมิต่ำสุด 10-18 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภูจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 1-11 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาเซลเซียส สำหรับภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
คำเตือน ในช่วงวันที่ 23-27 ธ.ค. 62 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ส่วนในช่วงวันที่ 28-29 ธ.ค. 62 คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นกำลังปานกลาง ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวัง ในการเดินเรือ
คำแนะนำสำหรับการเกษตร
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 23 - 27 ธ.ค. 62 อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส กับมีอากาศเย็นถึงหนาวและมีหมอกในตอนเช้ากับมีหมอกหนาบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 12-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอย มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-10 องศาเซลเซียส และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 28 - 29 ธ.ค. 62 อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส กับมีอากาศเย็นถึงหนาว และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 10-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 1-11 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %
- ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย สำหรับเกษตรกร ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรลดปริมาณอาหารลง เนื่องจากอุณหภูมิที่ต่ำจะทำให้สัตว์น้ำกินอาหารได้น้อยลง อาหารที่เหลือ จะทำให้น้ำเน่าเสีย และควรให้อาหารสัตว์น้ำในช่วงสายหรือช่วงที่อุณหภูมิสูงขึ้นก็จะทำให้สัตว์น้ำกินอาหารได้มากขึ้น การเจริญเติบโตดีขึ้น ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรเพิ่มความอบอุ่นภายในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ และไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่โล่งตอนกลางคืน โดยเฉพาะสัตว์ที่ยังเล็ก เพราะอาจต้านทานความหนาวเย็นไม่ไหว
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 23 - 27 ธ.ค. 62 อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส กับมีอากาศเย็นถึงหนาวและมีหมอกในตอนเช้าอุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 28 - 29 ธ.ค. 62 อุณหภูมิ จะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส กับมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูจะมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 5-11 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %
- ในช่วงนี้จะมีอากาศเย็นถึงหนาว เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย สำหรับเกษตรกร ที่จุดไฟเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ตนเองและสัตว์เลี้ยง เมื่อใช้งานเสร็จแล้วควรดับให้สนิททุกครั้ง เพื่อป้องกันไฟลุกลามนอกจากนี้ควรคลุมดินด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ใบไม้ ฟางข้าว และหญ้าแห้ง เป็นต้น เพื่อรักษาความชื้นภายในดินและรักษาอุณหภูมิดิน
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 23 - 27 ธ.ค. 62 อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 17-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 28 - 29 ธ.ค. 62 อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส กับมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %
- ระยะนี้จะมีอากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย สำ หรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน เกษตรกรควรวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงแล้ง
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 23 - 27 ธ.ค. 62 อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 28 - 29 ธ.ค. 62 อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส กับมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %
- สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะออกดอก เกษตรกรควรงดให้น้ำรอจนเห็นดอกชัดเจนแล้วจึงค่อยให้น้ำ โดยให้ในปริมาณที่น้อยก่อนแล้วค่อยเพิ่มปริมาณขึ้น และควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรต่างๆ ในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก เป็นต้น ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากต้นพืช ทำให้การผลิดอก ออกผลลดลงนอกจากนี้ควรใช้น้ำอย่างประหยัดและวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงแล้ง
ภาคใต้
ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 23 - 27 ธ.ค. 62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมาลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ลมตะวันออกความเร็ว 15-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 28- 29 ธ.ค. 62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมาลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออกความเร็ว 15-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %
ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียสความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %
- ระยะนี้ทางตอนบนของภาคปริมาณฝนมีน้อยสภาพอากาศแห้ง เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะพืชที่มีระบบรากตื้น เช่น พืชไร่ และพืชผัก เป็นต้น รวมทั้งระวังป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดเช่น เพลี้ยและไรต่างๆ ส่วนทางตอนล่างของภาค ดินและอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรควรระวังโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรครากเน่า-โคนเน่า และโรคราสีชมพู ในพืชสวน
ระหว่างวันที่ 16-22 ธันวาคม 2562 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ตลอดสัปดาห์ โดยมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนในระยะ ครึ่งหลังของสัปดาห์ ลักษณะดังกล่าวทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้นแต่ยังคงมีอากาศหนาวเย็นในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคใต้มีฝนส่วนมากทางฝั่งตะวันออกของภาคจากอิทธิพลของลมฝ่ายตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้เกือบตลอดสัปดาห์
ภาคเหนือมีอากาศหนาวเกือบทั่วไปทางตอนบนของภาคเกือบตลอดสัปดาห์ ส่วนทางตอนล่างของภาคมีอากาศเย็นกับมีอากาศหนาวบางพื้นที่ สำหรับบริเวณเทือกเขาและยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศเย็นทั่วไปตลอดสัปดาห์ กับมีอากาศหนาวบางพื้นที่ทางตอนบนของภาคในระยะต้นสัปดาห์ สำหรับบริเวณเทือกเขาและยอดภูมีอากาศหนาว ภาคกลาง มีอากาศเย็นเกือบทั่วไปส่วนมากทางตอนบนของภาค ภาคตะวันออก มีอากาศเย็นหลายพื้นที่ ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีอากาศเย็น หลายพื้นที่ โดยตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปมีฝนร้อยละ 40-65 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่ง และมีรายงานน้ำท่วมฉับพลันบริเวณจังหวัดยะลาและจังหวัดนราธิวาสในวันที่ 17 ธ.ค. ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีอากาศเย็นหลายพื้นที่ โดยมีฝนร้อยละ 10-40 ของพื้นที่เกือบตลอดสัปดาห์ กับมีฝนหนักบางแห่งในระยะกลางสัปดาห์
สัปดาห์ที่ผ่านมาบริเวณภาคใต้มีฝนตกหนักมากบริเวณจังหวัดนราธิวาส ส่วนจังหวัดที่มีฝนตกหนัก ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และตรัง โดยปริมาณฝนสูงสุด วัดได้ 250.2 มม. ที่ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2562
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา