พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า 8 - 14 มกราคม พ.ศ.2563

ข่าวทั่วไป Wednesday January 8, 2020 15:27 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 8 - 14 มกราคม พ.ศ.2563

ออกประกาศวันพุธที่ 8 มกราคม พ.ศ.2563

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 4/63

การคาดหมายลักษณะอากาศในช่วงวันที่ 8-11 ม.ค.63 ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนในช่วงวันที่ 12-14 ม.ค.63 ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกมีอากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งทางตอนล่างของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนน้อย ในตอนกลางวันมีแสงแดดจัด ตลอดช่วง

คำเตือน ในช่วงวันที่ 8-11 ม.ค.63 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรเพิ่มความระมัดระวังขณะสัญจรผ่านบริเวณที่หมอกไว้ด้วย

คำแนะนำสำหรับการเกษตร

ภาคเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 8-11 ม.ค.63 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-15 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 12-14 ม.ค.63 อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 13-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %

  • อากาศหนาวเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยโดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ รวมทั้งควรเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย สำหรับเกษตรกรที่ปลูกมันฝรั่ง ควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรคใบไหม้

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 8-12 ม.ค.63 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าอุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 13-14 ม.ค. 63 อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 % - อากาศหนาวเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย และควรเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย สำหรับผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้วไม่ควรตากไว้กลางแจ้งข้ามคืน เพราะอาจเสียหายเนื่องจากหมอกและน้ำค้างได้

ภาคกลาง

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 8-12 ม.ค.63 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าอุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 13-14 ม.ค.63 อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %

  • มีหมอกในตอนเช้า และมีแดดจัดในตอนกลางวัน เกษตรกรที่ปลูกมะม่วง ซึ่งอยู่ในระยะแทงช่อดอก ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยจักจั่นมะม่วง โดยตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากช่อดอก ทำให้ช่อดอกแห้งและดอกร่วง การติดผลจะน้อย ส่วนเกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชรอบใหม่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีความเสี่ยงขาดแคลนน้ำ ควรเลือกปลูกพืชที่มีอายุเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อย ได้แก่ กลุ่มพืชผักสวนครัว เช่น คะน้า ( 55 วัน/รอบ) กวางตุ้ง ( 40 วัน/รอบ) ถั่วฝักยาว ( 80 วัน/รอบ ) และแตงกวา ( 35 วัน/รอบ) เป็นต้น

ภาคตะวันออก

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 8-11 ม.ค.63 อากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 12-14 ม.ค.63 อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %

  • จากสภาพอากาศที่มีแดดจัดในตอนกลางวัน ทำให้การระเหยของน้ำบริเวณผิวดินมีมาก เกษตรกรควรนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาคลุมบริเวณแปลงปลูกหรือบริเวณโคนต้นพืช เพื่อชะลอการระเหยของน้ำ และยังเป็นการรักษาอุณหภูมิดิน นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดในพืชไร่ ไม้ผลไว้ด้วย

ภาคใต้

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 8-9 ม.ค.63 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่

ส่วนในช่วงวันที่ 10-14 ม.ค.63 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %

ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %

  • ทางตอนบนของภาค สภาพอากาศแห้ง เกษตรกรควรนำวัสดุที่เหลือใช้ทางการเกษตรมาคลุมบริเวณแปลงปลูกหรือโคนต้นพืช เพื่อชะลอการระเหยของน้ำบริเวณผิวดินและยังเป็นการรักษาความชื้นในดิน นอกจากนี้ควรระวังการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆ ในพืชไร่และไม้ผล เป็นต้น ส่วนทางตอนล่างของภาค ปริมาณและการกระจายของฝนลดลง เกษตรกรควรวางแผนการใช้น้ำและควรกักเก็บน้ำเอาไว้ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงแล้ง
ลักษณะอากาศในช่วง 7 วันที่ผ่านมา

ระหว่างวันที่ 1-7 มกราคม 2562 บริเวณประเทศไทยไม่มีรายงานฝนตกหนักถึงหนักมาก

ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ