พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 27 มกราคม - 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 12/63
การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 27 - 30 ม.ค. 63 บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 27 - 28 ม.ค. 63 ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยและยอดภูจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 1-13 องศาเซลเซียส และมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นบริเวณยอดดอยในภาคเหนือ ส่วนบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส สำหรับภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองได้บางพื้นที่ หลังจากนั้น ภาคเหนือ อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส แต่ยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนภาคอื่นๆมีอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย สำหรับภาคใต้ ในช่วงวันที่ 30 ม.ค. - 2 ก.พ. 63 มีฝนเพิ่มมากขึ้น และคลื่นลมแรง ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
คำเตือน ในช่วงวันที่ 27 - 30 ม.ค. 63 บริเวณประเทศไทยตอนบน อุณหภูมิจะลดลง เกษตรกรควรให้ความอบอุ่นแก่ตนเองอย่างเพียงพอ และรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยเนื่องสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 30 ม.ค. - 2 ก.พ. 63 บริเวณประเทศไทยตอนบน จะมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรระมัดระวังในการสัญจรขณะผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมบริเวณภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปจะมีกำลังค่อนข้างแรง ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือ ด้วยความระมัดระวัง
คำแนะนำสำหรับการเกษตร
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 27 - 28 ม.ค. 63 อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 7-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 1-11 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 29 ม.ค. - 2 ก.พ. 63 มีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 12-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %
- ระยะนี้อากาศหนาวเย็น เกษตรกรควรให้ความอบอุ่นแก่ตนเองอย่างเพียงพอ และดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย สำหรับบริเวณยอดดอยจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดกับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งและมีลมแรง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัย โดยทำแนวกันไฟรอบพื้นที่การเกษตร และอาคารบ้านเรือน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 27 - 30 ม.ค. 63 อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส กับมีฝนเล็กน้อยเป็นบางพื้นที่ ทางตอนล่างของภาค โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 27-28 ม.ค. 63 อุณหภูมิต่ำสุด 13-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูจะมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 31 ม.ค. - 2 ก.พ. 63 มีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 14-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูจะมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %
- ระยะนี้อากาศหนาวเย็น เกษตรกรควรให้ความอบอุ่นแก่ตนเองอย่างเพียงพอ สำหรับอากาศที่เปลี่ยนแปลง หากร่างกายเกษตรกรปรับตัวไม่ทันจะทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย ดังนั้นเกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง สำหรับเกษตรกรที่จุดไฟเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ตนเองและสัตว์เลี้ยงควรดับให้สนิททุกครั้งหลังเลิกใช้งาน เพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัย นอกจากนี้เกษตรกรควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหย ของน้ำบริเวณผิวดิน รักษาความชื้นภายในดิน และรักษาอุณหภูมิดิน
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 27 - 29 ม.ค. 63 มีอากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 30 ม.ค. - 2 ก.พ. 63 มีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %
- ระยะนี้อากาศเย็นในตอนเช้า เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วเพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและ เป็นโรคได้ง่าย สำหรับสภาพอากาศที่แห้ง เกษตรกรที่ปลูกกล้วยไม้ในโรงเรือนควรเพิ่มความชื้น โดยนำวัสดุอุ้มน้ำ ชุบน้ำแล้วนำไปไว้ในโรงเรือน หรือฉีดน้ำเป็นฝอยบริเวณโรงเรือน และทำแผงกำบังลม
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 27 - 30 ม.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 31 ม.ค. - 2 ก.พ. 63 มีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %
- ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรต่างๆ ซึ่งจะ ดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืช ทำให้ต้นพืชทรุดโทรม ผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพ นอกจากนี้เกษตรกรควรใช้น้ำ อย่างประหยัด และวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงแล้ง
ภาคใต้
ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 27 - 28 ม.ค. 63 มีเมฆบางส่วนกับมีฝนเล็กน้อยบางพื้นที่ ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 29 ม.ค. - 2 ก.พ. 63 มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %
ฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที่ 27 - 29 ม.ค. 63 มีเมฆบางส่วนกับมีฝนเล็กน้อยบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 30 ม.ค. - 2 ก.พ. 63 มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %
- สำหรับทางตอนบนของภาคสภาพอากาศแห้ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรต่างๆ ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากต้นพืช ทำให้พืชทรุดโทรม ผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพ ส่วน ทางตอนล่างของภาคฝนลดลง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ในพืชสวนและพืชผัก เป็นต้น และวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงแล้ง
ระหว่างวันที่ 20-26 มกราคม 2563 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้เกือบตลอดสัปดาห์ โดยในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนอีกระลอกหนึ่งได้แผ่เสริมลงมาปกคลุมบริเวณดังกล่าวกับมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนผ่านภาคเหนือเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้ได้พัดปกคุลมภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเกือบตลอดสัปดาห์ ลักษณะดังกล่าวทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศเย็นในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือกับมีอากาศหนาวทางตอนบนของภาคเหนือ โดยมีฝนและฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์ ส่วนภาคอื่นๆ มีฝนในบางพื้นที่ สำหรับภาคใต้และอ่าวไทยมีลมตะวันออกพัดปกคลุม ทำให้มีฝนส่วนมากทางฝั่งตะวันออกของภาค ภาคเหนือ มีอากาศเย็นทั่วไปกับมีอากาศหนาวบางพื้นที่ในระยะครึ่งแรกของสัปดาห์ จากนั้นอุณหภูมิลดลงจนมีอากาศหนาวทั่วไปทางตอนบนของภาค สำหรับบริเวณเทือกเขาและยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด โดยมีฝนน้อยกว่าร้อยละ 5 ของพื้นที่กับมีฝนหนักบางแห่งในระยะกลางสัปดาห์และมีรายงานลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดพิจิตรในวันที่ 24 ม.ค. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศเย็นทั่วไปเกือบตลอดสัปดาห์ กับมีอากาศหนาวบางพื้นที่ในวันสุดท้ายของสัปดาห์ สำหรับบริเวณเทือกเขาและยอดภูมีอากาศหนาว โดยมีฝนร้อยละ 5 – 50 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่งในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์ และมีรายงานลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดอุดรธานี หนองบัวลำภู นครพนมในวันที่ 24 ม.ค.จังหวัดสกลนครในวันที่ 25 ม.ค. ภาคกลาง มีอากาศเย็นหลายพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค โดยมีฝนบางพื้นที่ในระยะกลางสัปดาห์ภาคตะวันออก มีอากาศเย็นบางพื้นที่ ส่วนมากในระยะครึ่ง แรกของสัปดาห์ โดยมีฝนร้อยละ 5-15 ของพื้นที่เกือบตลอดสัปดาห์ ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีอากาศเย็นหลายพื้นที่ในระยะครึ่งแรกของสัปดาห์ จากนั้นมีอากาศเย็นเกือบทั่วไป โดยมีฝนน้อยกว่าร้อยละ 40 ของพื้นที่ในระยะครึ่งแรกของสัปดาห์ ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีอากาศเย็นหลายพื้นที่ในระยะต้นและกลางสัปดาห์ จากนั้นมีอากาศเย็นเกือบทั่วไป โดยมีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่ในวันที่ 20 และ 23 ม.ค.
สัปดาห์ที่ผ่านมาบริเวณประเทศไทยไม่มีรายงายงานฝนหนักมาก สำหรับบริเวณจังหวัดที่มีฝนตกหนัก ได้แก่ กำแพงเพชรและอุดรธานี
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา