พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า 29 มกราคม - 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563

ข่าวทั่วไป Wednesday January 29, 2020 15:50 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 29 มกราคม - 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563

ออกประกาศวันพุธที่ 29 มกราคม พ.ศ.2563

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 13/63

การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 29 ม.ค. - 1 ก.พ.63 บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว และ/ อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียสกับมีลมแรงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 2-14 องศาเซลเซียส และมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นบริเวณยอดดอยในภาคเหนือ ส่วนบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง สำหรับภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนในช่วงวันที่ 2-4 ก.พ. 63 บริเวณประเทศไทยตอนบนมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้าบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคใต้มีฝนลดลง สำหรับบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไปทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ตลอดช่วง

คำเตือนในช่วงวันที่ 29 ม.ค. - 1 ก.พ.63 บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง สำหรับบริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นลมแรง ตลอดช่วง ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ

คำแนะนำสำหรับการเกษตร

ภาคเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในวันที่ 30 ม.ค. - 4 ก.พ.63 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 9-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 2-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %

  • อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยน แปลง รวมทั้งควรเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย จากสภาพอากาศดังกล่าว เหมาะแก่การระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชผัก เช่น โรคราน้ำค้าง โรคใบไหม้ เป็นต้น

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 30 ม.ค. - 1 ก.พ.63 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 13-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-29 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 7-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 2-4 ก.พ.63 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %

  • อากาศหนาวเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย และควรเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา จากสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งในตอนกลางวัน เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการเผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร แต่ควรใช้วิธีการไถกลบแทน เป็นการลดมลพิษในอากาศและยังเป็นการปรับปรุงดินได้ด้วย

ภาคกลาง

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 30 ม.ค. - 1 ก.พ.63 อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 2-4 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %

  • อากาศเปลี่ยนแปลงกับมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในไม้ผลและพืชผักไว้ด้วย ส่วนในตอนกลางวันอากาศร้อนและมีลมแรง เกษตรควรงดการเผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพราะอาจลุกลามจนเกิดอัคคีภัยได้ แต่ควรใช้วิธีการไถกลบแทน ทั้งยังเป็นการปรับปรุงดินได้ด้วย

ภาคตะวันออก

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 30-31 ม.ค.63 อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 1-4 ก.พ.63 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %

  • อากาศเปลี่ยนแปลงกับมีหมอกบางในตอนเช้า เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดในไม้ผลไว้ด้วย ส่วนในตอนกลางวันอากาศร้อนและแห้ง ทำให้ปริมาณการระเหยของน้ำบริเวณผิวดินมีมาก เกษตรกรควรนำเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาคลุมบริเวณแปลงปลูกหรือบริเวณโคนต้นพืช เพื่อชะลอการระเหยของน้ำ และยังเป็นการรักษาอุณหภูมิดิน

ภาคใต้

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 30 ม.ค. -1 ก.พ.63 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 2-4 ก.พ.63 มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %

ฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 30 ม.ค.-2 ก.พ.63 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 3-4 ก.พ. 63 มีฝนเล็กน้อยบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %

  • มีฝนบางพื้นทางตอนล่างของภาค เกษตรกรควรกักเก็บน้ำเอาไว้และวางแผนการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงแล้ง รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่และไม้ผลไว้ด้วย
ลักษณะอากาศในช่วง 7 วันที่ผ่านมา

ระหว่างวันที่ 22-28 มกราคม 2563 บริเวณประเทศไทยไม่มีรายงายงานฝนตกหนักมาก สำหรับบริเวณจังหวัดที่มีฝนตกหนัก ได้แก่ กำแพงเพชรและอุดรธานี

ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ