พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 - 20 กุมภาพันธ์ 2563
การคาดหมาย
ในช่วงวันที่ 14 - 15 ก.พ. 63 ประเทศไทยตอนบนมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกกับมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้าบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยภาคเหนือตอนบนอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 2-12 องศาเซลเซียส สำหรับภาคใต้จะมีฝนลดลง และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง โดยบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวดนครศรีธรรมราชลงไปทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 16 - 20 ก.พ.ประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออกอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส โดยในระยะแรกจะมีฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก
สำหรับภาคใต้ในช่วงวันที่18 - 20 ก.พ. จะมีฝนเพิ่มขึ้น และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวดนครศรีธรรมราชลงไปทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 3 เมตร
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 14 - 16 ก.พ. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นไว้ด้วย ในช่วงวันที่ 17 - 20 ก.พ. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา
ในช่วงวันที่ 14 - 15 ก.พ. 63 คลื่นอากาศในกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนปกคลุมภาคเหนือ ทำให้บริเวณภาคเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาวและอุณหภูมิจะลดลง ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีหมอกในตอนเช้า ส่งผลให้มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้มีกำลังอ่อนลงทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง ส่วนในช่วงวันที่ 16 - 20 ก.พ. 63 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนอีกระลอกหนึ่งจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 14 - 15 ก.พ. 63 อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 11-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 2-12 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 16 - 20 ก.พ. 63 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 12-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-13 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 14 - 15 ก.พ. 63 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 18-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 16 - 20 ก.พ. 63 อากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่งด้านตะวันออกของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 14-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 14 - 15 ก.พ. 63 มีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 16 - 20 ก.พ. 63 อากาศเย็นกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 14 - 15 ก.พ. 63 มีเมฆบางส่วน กับมีฝนบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 16 - 20 ก.พ. 63 อากาศเย็นกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 14 - 17 ก.พ. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 18 - 20 ก.พ. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่ฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร บริเวณที่ฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 3 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 14 - 17 ก.พ. 63 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
ในช่วงวันที่ 18 - 20 ก.พ. 63 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 14 - 15 ก.พ. 63 มีหมอกในตอนเช้า กับมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 16 - 20 ก.พ. 63 มีหมอกในตอนเช้า กับมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ออกประกาศ 14 กุมภาพันธ์ 2563
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา