พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 - 5 มีนาคม 2563

ข่าวทั่วไป Friday February 28, 2020 13:22 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 - 5 มีนาคม 2563

การคาดหมาย

ในช่วงวันที่ 28 ก.พ. – 2 มี.ค. 63 ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน แต่ยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้าบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับบริเวณภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 3 - 5 มี.ค. 63 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นกับมีลมกระโชกแรงในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส สำหรับภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น

ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 3 - 5 มี.ค. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง รวมทั้งสิ่งปูกสร้างที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา

ในช่วงวันที่ 28 ก.พ. – 2 มี.ค. 63 ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนบางพื้นที่ สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อน ทำให้ภาคใต้มีฝนน้อย ส่วนในช่วงวันที่ 3 - 5 มี.ค. 63 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นอีกระลอกหนึ่งจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นกับมีลมกระโชกแรงในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น

ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 28 ก.พ. – 2 มี.ค. 63 อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน

อุณหภูมิต่ำสุด 17-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-15 องศาเซลเซียส ลมอ่อน ความเร็ว 5-10 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 3 – 5 มี.ค. 63 อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 28 ก.พ. – 1 มี.ค. 63 อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน

อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 2 - 5 มี.ค. 63 อากาศเย็นในตอนเช้า

โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 28 ก.พ. – 2 มี.ค. 63 อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 3 - 5 มี.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 28 ก.พ. – 2 มี.ค. 63 อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่

ส่วนในช่วงวันที่ 3 – 5 มี.ค. 63 อากาศร้อนในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรง

อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 28 ก.พ. – 2 มี.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่

ส่วนในช่วงวันที่ 3 - 5 มี.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ตลอดช่วง

ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 28 ก.พ. – 2 มี.ค. 63 มีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 3 – 5 มี.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ออกประกาศ 28 กุมภาพันธ์ 2563

ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ