พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 11 มีนาคม 2551 - 17 มีนาคม 2551
การคาดหมาย ในระยะนี้บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ จะมีกำลังอ่อนลงอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น โดยจะมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน เว้นแต่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะยังคงมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า สำหรับประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ส่วนภาคใต้จะมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ในช่วงวันที่ 11-13 มี.ค. คลื่นลมในอ่าวไทยตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร หลังจากนั้นคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลงข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 11-13 มี.ค.ขอให้ชาวเรือในอ่าวไทยโดยเฉพาะตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไประมัดระวังอันตรายในการเดินเรือไว้ด้วย
ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเช้า และอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศา ส่วนในตอนกลางวันจะมีฟ้าหลัว
สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-13 องศา โดยมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่เกือบตลอดช่วง ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีหมอกในตอนเช้า และอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศา ส่วนในตอนกลางวันจะมีฟ้าหลัว
สำหรับบริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศา โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่เกือบตลอดช่วง ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง มีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศา ส่วนในตอนกลางวันจะมีฟ้าหลัวและอากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศา โดยจะมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่เกือบตลอดช่วง
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก มีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศา ส่วนในตอนกลางวันจะมีฟ้าหลัวและอากาศร้อนทางตอนบนของภาค อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศา มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่งเกือบตลอดช่วง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ตลอดช่วง สำหรับในช่วงวันที่ 11-13 มี.ค. ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา : เป็นลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป: เป็นลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ส่วน ในช่วงวันที่ 14-17 มี.ค. คลื่นลมจะมีกำลังอ่อนลง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ตลอดช่วง สำหรับในช่วงวันที่ 11-13 มี.ค. เป็นลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วน ในช่วงวันที่ 14-17 มี.ค. เป็นลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศา ส่วนในตอนกลางวันจะมีฟ้าหลัวและอากาศร้อน
อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศา โดยจะมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่เกือบตลอดช่วง
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74