พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 25-31 มีนาคม พ.ศ.2563
ออกประกาศวันพุธที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2563
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 37/63
การคาดหมายลักษณะอากาศในช่วงวันที่ 25-26 มี.ค. 63 บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไปและมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือและภาคกลาง โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ส่วนในช่วงวันที่ 27-31 มี.ค. 63 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นโดยทั่วไปและมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด
คำเตือน บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดบางแห่ง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 25-26 มี.ค.63 จะมีพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้นในบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง
คำแนะนำสำหรับการเกษตร
ภาคเหนือ
อากาศร้อนโดยทั่วไปและมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 18-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-42 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 55-65 %
- มีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในตอนกลางวัน เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน หากมีความจำเป็น ควรสวมเสื้อผ้าให้มิดชิดและควรดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อป้องกันผิวหนังไหม้เกรียมและร่างกายขาดน้ำ สำหรับเกษตรกรที่ต้องเตรียมพื้นที่เพาะปลูกรอบใหม่ ควรหลีกเลี่ยงการเผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร แต่ควรใช้วิธีไถกลบแทน รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยและไร ชนิดต่างๆ ในพืชไร่และพืชผัก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 25-26 มี.ค. 63 อากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 27-31 มี.ค. 63 อากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-41 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %
- มีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในตอนกลางวัน เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน หากมีความจำเป็นควรสวมเสื้อผ้าให้มิดชิดและดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อป้องกันผิวหนังไหม้เกรียมและร่างกายขาดน้ำ รวมทั้งควรระวังการเกิดอัคคีภัย โดยไม่เผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไร ชนิดต่างๆ ในพืชไร่และพืชผักไว้ด้วย
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 25-26 มี.ค. 63 อากาศร้อนโดยทั่วไป อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-39 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 27-31 มี.ค. 63 อากาศร้อนถึงร้อนจัด อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39-42 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %
- มีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในตอนกลางวัน เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานาน หากจำเป็นควรสวมเสื้อผ้าให้มิดชิดและดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อป้องกันร่างกายขาดน้ำ นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่และพืชผักไว้ด้วย สำหรับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์ปีก ควรดูแลโรงเรือนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันสัตว์เจ็บป่วย
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 25-26 มี.ค. 63 อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ในช่วงวันที่ 27-31 มี.ค.63 อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %
- มีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในตอนกลางวัน ทำให้ปริมาณการระเหยของน้ำบริเวณผิวดินมีมาก เกษตรกรควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชตามความเหมาะสม และคลุมดินบริเวณแปลงปลูกและโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่และไม้ผล
ภาคใต้
ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ตลอดช่วงอุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %
ฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 25-26 มี.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 27-31 มี.ค. 63 มีฝนบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %
- อากาศร้อนและแห้ง ทำให้ปริมาณการระเหยของน้ำบริเวณผิวดินมีมาก เกษตรกรควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชตามความเหมาะสมและคลุมดินบริเวณแปลงปลูกและโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อชะลอการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไร ชนิดต่างๆ ในพืชสวนและไม้ผล สำหรับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยง ควรดูแลปริมาณน้ำให้เหมาะสมกับจำนวนสัตว์น้ำที่เลี้ยง เพราะหากปริมาณน้ำมีน้อยสัตว์น้ำจะอยู่อย่างแออัด จนทำให้อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ระหว่างวันที่ 18-24 มีนาคม 2563 มีรายงานฝนตกหนักมากบริเวณจังหวัดจันทบุรี สำหรับบริเวณจังหวัดที่มีฝนตกหนัก ได้แก่ เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย อุดรธานี นครพนม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ขอนแก่น ชัยภูมิ ฉะเชิงเทรา ตราด และตรัง
ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา