พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 18 - 24 กันยายน พ.ศ. 2563

ข่าวทั่วไป Friday September 18, 2020 14:07 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 18 - 24 กันยายน พ.ศ. 2563

ออกประกาศวันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2563

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 113/63

การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 18-20 ก.ย. พายุระดับ 3 (โซนร้อน) "โนอึล" ปกคลุมบริเวณเมืองสาละวัน ประเทศลาวตอนกลาง คาดว่าจะเคลื่อนผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ เข้าสู่ประเทศเมียนมา และมีแนวโน้มว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) ในระยะต่อไป ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และประเทศไทยมีกำลังแรง ส่งผลทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนตกเป็นบริเวณกว้างกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 3-5 เมตร และอ่าวไทยคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 5 เมตร หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 21-24 ก.ย. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง

คำเตือน ในช่วงวันที่ 18-20 ก.ย. บริเวณประเทศไทยจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ เกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงภัยควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก สำหรับบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีคลื่นสูง 2-5 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรงดการเดินเรือ

คำแนะนำสำหรับการเกษตร

ภาคเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 18-20 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นบริเวณกว้าง กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 21-24 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 85-95 %

  • ในช่วงที่มีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ เกษตรกรควรระวังและป้องกันอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังพื้นที่เกษตร รวมทั้งอพยพสัตว์เลี้ยงขึ้นที่สูงน้ำท่วมไม่ถึง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 18-19 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นบริเวณกว้าง กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ และมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 20-24 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 85-95 %

  • ในช่วงที่มีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ เกษตรกรควรระวังและป้องกันอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังพื้นที่เกษตร รวมทั้งอพยพสัตว์เลี้ยงขึ้นที่สูงน้ำท่วมไม่ถึง นอกจากนี้ไม่ควรปล่อยให้สัตว์อยู่ในที่ชื้นแฉะเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคกลาง

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 18-20 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 21-24 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 %

  • ในช่วงที่มีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากแปลงปลูก นอกจากนี้เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการลุยน้ำลุยโคลน ถ้าจำเป็นควรสวมรองเท้าบูทยางกันน้ำ เพื่อป้องกันโรคฉี่หนูหรือโรคเลปโตสไปโรซิส

ภาคตะวันออก

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 18-20 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 21-24 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 %

  • ในช่วงที่มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันน้ำท่วมขังพื้นที่เกษตร นอกจากนี้ควรระวังสัตว์มีพิษที่หนีน้ำหรือลอยมากับน้ำ

ภาคใต้

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 18-20 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 21-24 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 %

ฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที่ 18-20 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 3-5 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 5 เมตร ในช่วงวันที่ 21-24 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 %

  • ในช่วงที่มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังพื้นที่เกษตร นอกจากนี้ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำใกล้ชายฝั่งควรระวังคลื่นสูงที่ซัดเข้าหาฝั่ง
ลักษณะอากาศในช่วง 7 วันที่ผ่านมา

ระหว่างวันที่ 11-17 กันยายน 2563 ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาและประเทศลาวตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนในระยะครึ่งแรกของช่วง จากนั้นได้เลื่อนลงมาพาดผ่านบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างในวันที่ 15 ก.ย. ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยโดยมีกำลังแรงขึ้นในระยะปลายช่วง ลักษณะดังกล่าวทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนหนาแน่นเกือบตลอดช่วง โดยเฉพาะบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้

อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน "โนอึล (NOUL (2011))" เมื่อเวลา 01.00 น.ของวันที่ 16 ก.ย. จากนั้นพายุนี้ได้เคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางในวันสุดท้ายของช่วง

ภาคเหนือ มีฝนร้อยละ 15-55 ของพื้นที่ เว้นแต่ในวันแรกของช่วงมีฝนร้อยละ 65 ของพื้นที่ โดยมีฝนหนักบางแห่งเกือบตลอดช่วง กับมีฝนหนักมากบางพื้นที่ในวันแรกของช่วง และมีรายงานน้ำท่วมฉับพลันบริเวณจังหวัดตากในวันที่ 15 ก.ย. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนมากกว่าร้อยละ 65 ของพื้นที่ เว้นแต่ในวันที่ 14 - 16 ก.ย. มีฝนร้อยละ 10-50 ของพื้นที่ โดยมีฝนหนักบางแห่งเกือบตลอดช่วง และมีฝนหนักมากบางพื้นที่ในวันที่ 15 และ 17 ก.ย. โดยมีรายงานลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดสุรินทร์ในวันที่ 14 ก.ย. ภาคกลาง มีฝนร้อยละ 5-40 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่งเกือบตลอดช่วง ภาคตะวันออก มีฝนมากกว่าร้อยละ 60 ของพื้นที่ เว้นแต่ในวันสุดท้ายของช่วงมีฝนร้อยละ 35 ของพื้นที่ โดยมีฝนหนักบางแห่งตลอดช่วง กับมีฝนหนักมากบางพื้นที่ในวันที่ 14, 15 และ 17 ก.ย. และมีรายงานน้ำท่วมฉับพลันบริเวณจังหวัดนครนายกในวันที่ 15 ก.ย. ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนมากกว่าร้อยละ 60 ของพื้นที่ เว้นแต่ในวันที่ 13 และ 15 ก.ย. มีฝนร้อยละ 50 ของพื้นที่ โดยมีฝนหนักบางแห่งตลอดช่วง กับมีฝนหนักมากบางพื้นที่ ในวันแรกของช่วง ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนมากกว่าร้อยละ 60 ของพื้นที่เกือบตลอดช่วง โดยมีฝนหนักบางแห่งตลอดช่วง และมีฝนหนักมากบางพื้นที่ในวันที่ 12 และ 17 ก.ย. และมีรายงานน้ำท่วมฉับพลันบริเวณจังหวัดพังงาในวันที่ 12 ก.ย.

ช่วงที่ผ่านมามีรายงานฝนตกหนักมากบริเวณจังหวัดพิจิตร เพชรบูรณ์ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด นราธิวาส ระนอง และพังงา ส่วนบริเวณจังหวัดที่มีฝนตกหนัก ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร หนองคาย อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ อุทัยธานี ลพบุรี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี นครนายก สระแก้ว ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ