พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 6 ธันวาคม พ.ศ.2563

ข่าวทั่วไป Monday November 30, 2020 15:48 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน ? 6 ธันวาคม พ.ศ.2563

ออกประกาศวันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2563

การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 30 พ.ย. - 2 ธ.ค. 63 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรง/ ยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ส่วนยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด ส่วนในช่วงวันที่ 3-6 ธ.ค. 63 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่จะมีลมตะวันตกพัดพาความหนาวเย็นจากประเทศเมียร์มาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นลง กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงได้อีก 3-5 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ยังคงมีกำลังแรง ประกอบกับในช่วงวันที่ 30 พ.ย. - 3 ธ.ค. 63 หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างจะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมชายฝั่งประเทศมาเลเซีย ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 4-6 ธ.ค. 63 ภาคใต้มีฝนลดลง และคลื่นลมมีกำลังอ่อนลง

คำเตือน ในช่วงวันที่ 30 พ.ย. - 6 ธ.ค.63 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพ เนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลง ส่วนในช่วงวันที่ 30 พ.ย.-3 ธ.ค.63 บริเวณภาคใต้จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ให้ระวังน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย สำหรับชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง โดยเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยงดออกจากฝั่ง

คำแนะนำสำหรับการเกษตร

ภาคเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 30 พ.ย. - 2 ธ.ค. 63 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิ ต่ำสุด 13-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-12 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 3-6 ธ.ค. 63 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีก 3-5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 10-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 3-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 50-60 % ความยาวนานของแสงแดด 6-8 ชั่วโมง

  • อากาศหนาวเย็น กับมีลมแรง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง โดยสวมใส่เสื้อผ้าหนาๆ เพื่อให้ความอบอุ่นแก่ ร่างกาย จากสภาพอากาศที่มีลมแรงทำให้ปริมาณการระเหยของน้ำมีมาก เกษตรกรควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกหรือโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการสูญเสียน้ำบริเวณผิวดินและเป็นการรักษาความชื้นในดิน

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 30 พ.ย. - 2 ธ.ค. 63 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-16 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 3-6 ธ.ค. 63 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีก 3-5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 11-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 7-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 55-65 % ความยาวนานของแสงแดด 5-7 ชั่วโมง

  • อากาศหนาวเย็น กับมีลมแรง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง โดยสวมใส่เสื้อผ้าหนาๆ เพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย สำหรับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์ปีก ควรทำแผงกำบังลมหนาวและควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทันจนอ่อนและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคกลาง

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 30 พ.ย. - 2 ธ.ค. 63 อากาศเย็นกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย โดยมีฝนเล็กน้อยบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 3-6 ธ.ค. 63 อากาศเย็นกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีก 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 % ความยาวนานของแสงแดด 5-7 ชั่วโมง

  • อากาศเย็น กับมีลมแรง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย สำหรับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ น้ำ ควรลดปริมาณอาหารลง เนื่องจากสภาพอากาศที่เย็นลง จะทำให้สัตว์น้ำกินอาหารได้น้อย และเพื่อป้องกันเศษอาหารที่เหลือจะทำให้น้ำเน่าเสีย นอกจากนี้ผลผลิตการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้ว เกษตรกรไม่ควรตากผลผลิตบนพื้นผิวจราจร เพราะจะทำให้ขีดขวางการจราจร และอาจเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุบนท้องถนนได้

ภาคตะวันออก

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 30 พ.ย. - 2 ธ.ค. 63 อากาศเย็นกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย โดยมีฝนเล็กน้อยบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 3-6 ธ.ค. 63 อากาศเย็นกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีก 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 % ความยาวนานของแสงแดด 6-8 ชั่วโมง

  • อากาศเย็น กับมีลมแรง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย จากสภาพอากาศที่มีลมแรงทาให้ปริมาณการระเหยของน้ำมีมาก เกษตรกรควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกหรือโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการสูญเสียน้ำบริเวณผิวดิน และเป็นการรักษาความชื้นในดิน นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผักต่างๆ ไว้ด้วย

ภาคใต้

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 30 พ.ย. - 3 ธ.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 4-6 ธ.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา :ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 % ความยาวนานของแสงแดด 3-6 ชั่วโมง

ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 30 พ.ย. - 3 ธ.ค. 63 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 % ความยาวนานของแสงแดด 4-7 ชั่วโมง

  • มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผักต่างๆ

อนึ่ง บริเวณอ่าวไทย ตั้งแต่ จังหวัดชุมพรลงไป จะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง โดยเรือเล็กงดออกจากฝั่ง ในช่วงวันที่ 30 พ.ย.-3 ธ.ค.63

ลักษณะอากาศในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา

ระหว่างวันที่ 23-29 พฤศจิกายน 2563 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ในวันแรกของสัปดาห์ จากนั้นบริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งได้แผ่เสริมลงมาปกคลุมบริเวณดังกล่าวในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์ ประกอบกับมีลมตะวันออกพัดปกคลุมบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกในวันแรกของสัปดาห์ อีกทั้งมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงตลอดสัปดาห์ กับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศมาเลเซียในระยะกลางสัปดาห์ ลักษณะดังกล่าวทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นเกือบทั่วไปในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตลอดสัปดาห์ ส่วนภาคใต้มีฝนหนาแน่นตลอดสัปดาห์ ส่วนมากตั้งแต่บริเวณจังหวัดชุมพรลงไป

ภาคเหนือ มีอากาศเย็นเกือบทั่วไปในระยะต้นสัปดาห์ จากนั้นอุณหภูมิลดลงจนมีอากาศเย็นทั่วไป กับมีอากาศหนาวบางพื้นที่ทางตอนบนของภาคในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์ สำหรับบริเวณเทือกเขาและยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด โดยมีฝนร้อยละ 20 ของพื้นที่ในวันแรกของสัปดาห์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศเย็นทั่วไปเกือบตลอดสัปดาห์ สำหรับบริเวณเทือกเขาและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด โดยมีฝนเล็กน้อยบางพื้นที่ของจังหวัดบุรีรัมย์ในวันที่ 28 พ.ย.

ภาคกลาง มีอากาศเย็นบางพื้นที่ในระยะต้นและกลางสัปดาห์ จากนั้นอุณหภูมิลดลงจนมีอากาศเย็นเกือบทั่วไป โดยมีฝนร้อยละ 15 ของพื้นที่ในวันแรกของสัปดาห์ ภาคตะวันออกมีอากาศเย็นบางพื้นที่ โดยมีฝนร้อยละ 5-20 ของพื้นที่ในวันที่ 23, 25 และ 29 พ.ย. ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนร้อยละ 40-80 ของพื้นที่ โดยมีฝนหนักบางแห่งตลอดสัปดาห์ส่วนมากตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป กับมีฝนหนักมากบางพื้นที่ในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์ และมีรายงานน้ำท่วมบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราชและสงขลาในวันที่ 25-27 พ.ย. บริเวณจังหวัดพัทลุง ยะลาและนราธิวาสในวันที่ 27 พ.ย. ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนมากกว่าร้อยละ 75 ของพื้นที่ เว้นแต่ในวันที่ 24 และ 29 พ.ย. มีฝนร้อยละ 25 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่ง และมีฝนหนักมากบางพื้นที่ในวันที่ 26 พ.ย. โดยมีรายงานน้ำท่วมบริเวณจังหวัดภูเก็ตในวันที่ 23 พ.ย. บริเวณจังหวัดตรังในวันที่ 26-27 พ.ย.

สัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานฝนตกหนักมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี นราธิวาส และตรัง ส่วนบริเวณจังหวัดที่มีฝนตกหนัก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชุมพร ยะลา ภูเก็ต และสตูล โดยวัดปริมาณฝนสูงสุด ได้ 228.4 มิลลิเมตร ที่อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 27 พ.ย.63

ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ