พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 20 - 26 มกราคม พ.ศ.2564

ข่าวทั่วไป Wednesday January 20, 2021 15:25 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 20 - 26 มกราคม พ.ศ.2564

ออกประกาศวันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ.2564

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 9/64

การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 21-24 ม.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง / ทำให้บริเวณดังกล่าวอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังอ่อนลง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังอ่อน ส่วนในช่วงวันที่ 25-26 ม.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมทะเลจีนใต้ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

คำเตือนในช่วงวันที่ 21-26 ม.ค. ประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิจะสูงขึ้น และมีหมอกในตอนเช้ากับมีหมอกหนาบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับผลผลิตทางการเกษตร รวมทั้งควรเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย

คำแนะนำสำหรับการเกษตร

ภาคเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

อากาศเย็นถึงหนาว ตลอดช่วง กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 12-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 % ความยาวนานของแสงแดด 6-8 ชั่วโมง

  • ระยะนี้อุณหภูมิจะสูงขึ้น โดยมีหมอกในตอนเช้า กับมีหมอกหนาบางพื้นที่ เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ส่วนในบางพื้นที่ที่มีหมอกหนาเกษตรกรควรเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณดังกล่าว รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรคราน้ำค้างในพืชไร่ ไม้ดอก และพืชผักต่างๆ ไว้ด้วย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

อากาศเย็นถึงหนาว ตลอดช่วง กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 13-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 % ความยาวนานของแสงแดด 6-8 ชั่วโมง

  • ระยะนี้อุณหภูมิจะสูงขึ้น โดยมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาบางพื้นที่ เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย รวมทั้งควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวังในขณะสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา นอกจากนี้เกษตรควรงดการเผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร แต่ควรใช้วิธีไถ่กลบแทน เนื่องจากการเผาจะส่งผลกระทบต่อทัศนวิสัยการมองเห็นแล้วยังเป็นมลพิษทางอากาศ และเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเกษตรกรเองด้วย

ภาคกลาง

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

อากาศเย็น ตลอดช่วง กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 % ความยาวนานของแสงแดด 6-9 ชั่วโมง

  • ระยะนี้อุณหภูมิจะสูงขึ้น โดยมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ ส่งผลให้อากาศจมตัวและมีฝุ่นละอ่องสะสมมาก เกษตรกรควรงดกิจกรรมกลางแจ้ง หากมีความจำเป็นควรสวมใส่หน้ากากอนามัย สำหรับผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้วไม่ควรตากทิ้งข้ามคืน เพราะผลผลิตอาจเปียกชื้นเสียหายจากหมอกและน้ำค้างได้

ภาคตะวันออก

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

อากาศเย็น ตลอดช่วง กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส โดยในช่วงวันที่ 24-25 ม.ค. 64 มีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 % % ความยาวนานของแสงแดด 5-8 ชั่วโมง

  • มีหนอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ ส่วนในตอนกลางวันมีแดดจัด เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด ในไม้ผล โดยศัตรูพืชดังกล่าวจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืช ทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต ผลไม่สมบูรณ์ แคระแกร็นด้อยคุณภาพได้ นอกจากนี้เกษตรควรงดการเผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร แต่ใช้วิธีไถ่กลบแทน เนื่องจากการเผาจะส่งผลกระทบต่อทัศนวิสัยการมองเห็นแล้วยังเป็นมลพิษทางอากาศ และเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเกษตรกรเองด้วย

ภาคใต้

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 20-24 ม.ค. 64 มีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในวันที่ 25-26 ม.ค. 64 มีฝนร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. อ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 % ความยาวนานของแสงแดด 5-8 ชั่วโมง

ฝั่งตะวันตก มีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 % ความยาวนานของแสงแดด 5-8 ชั่วโมง

  • ตอนบนของภาค มีอากาศเย็นในตอนเช้า และมีแดดจัดในตอนกลางวัน ทำให้การระเหยของน้ำบริเวณผิวดินมีมากเกษตรกรควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกหรือโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อชะลอการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผล ส่วนทางตอนล่างภาค ยังมีฝนได้บางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผลไว้ด้วย
ลักษณะอากาศในช่วง 7 วันที่ผ่านมา

ระหว่างวันที่ 13-19 มกราคม 2564 ไม่มีรายงานฝนตกหนักมากโดยมีรายงานฝนตกหนักที่จังหวัดสุราษฏร์ธานี วัดปริมาณฝนสูงสุด ได้ 36.2 มิลลิเมตร ที่อำเภอพระแสง เมื่อวันที่ 16 มกวาคม 2564

ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ