พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 25 - 31 มกราคม พ.ศ. 2564

ข่าวทั่วไป Monday January 25, 2021 15:13 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 25 - 31 มกราคม พ.ศ. 2564

ออกประกาศวันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2564

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 11/64

การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 25 - 27 ม.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเล จีนใต้ ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีฝนบางพื้นที่ บริเวณภาคตะวันออก กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในขณะที่ลมฝ่ายตะวันตกพัดปกคลุมภาคเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีอากาศหนาวเย็น สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังอ่อนลง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังอ่อน ส่วนในช่วงวันที่ 28 - 31 ม.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนอากาศหนาวเย็นลง และมีอุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ประกอบกับในช่วงวันที่ 29 - 30 ม.ค. 64 จะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนผ่านภาคเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

คำเตือน ในช่วงวันที่ 25 - 26 ม.ค. 64 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรระมัดระวังในการสัญจร โดยเฉพาะขณะผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา ส่วนในช่วงวันที่ 27 - 31 ม.ค. 64 บริเวณประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิจะลดลง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพ ให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย

คำแนะนำสำหรับการเกษตร

ภาคเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

อากาศเย็นถึงหนาว ตลอดช่วง กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 29 - 30 ม.ค. 64 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 11-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-12 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 25 - 27 ม.ค. 64 ตอนบนของภาค: ลมตะวันตก ความเร็ว 8-15 กม./ชม. ทางตอนล่างของภาค: ลมอ่อน ความเร็ว 4-10 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 28 - 31 ม.ค. 64 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 % ความยาวนานแสงแดด 6-9 ชม.

  • ระยะนี้อากาศหนาวเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง รวมทั้งควรระวังและป้องกันโรคราน้ำค้างใน พืชไร่ ไม้ดอก และพืชผัก นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้งข้ามคืน เพราะอาจเปียกชื้นเสียหายได้ สำหรับไม้ผลที่ออกดอกในช่วงฤดูหนาว เช่น ลำไยและลิ้นจี่ เกษตรกรควรกำจัดวัชพืช บริเวณโคนต้นพืชให้โล่งเตียน เพื่อไม่ให้แย่งน้ำและธาตุอาหารจากพืชที่ปลูก

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 25 - 26 ม.ค. 64 อากาศเย็น และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-15 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 27 - 31 ม.ค. 64 อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 11-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 6-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 % ความยาวนานแสงแดด 7-10 ชม.

  • ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย สำหรับสภาพอากาศที่แห้ง เกษตรควรระวังและป้องกันอัคคีภัย โดยทำแนวกันไฟรอบพื้นที่การเกษตร และอาคารบ้านเรือน รวมทั้งหลีกเลี่ยงการจุดไฟหากมีความจำเป็นต้องจุดไฟควรดับให้สนิททุกครั้งหลังเลิกใช้งาน นอกจากนี้ควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชและโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ใบไม้ ฟางข้าว และหญ้าแห้ง เป็นต้น เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน สงวนความชื้นภายในดิน และรักษาอุณหภูมิดิน ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์ปรับตัวไม่ทันอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคกลาง

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 25 - 28 ม.ค. 64 อากาศเย็น และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-4 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่ ทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-15 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 29 - 31 ม.ค. 64 อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 % ความยาวนานแสงแดด 7-10 ชม.

  • ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ป้องกันสัตว์ปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย ส่วนระยะนี้และระยะต่อไปปริมาณและการกระจายของฝนมีน้อย พื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน เกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชรุ่นใหม่ควรเลือกพืชที่อายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อยเพื่อลดความเสี่ยงต่อการขาดน้ำของพืช

ภาคตะวันออก

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 25 - 28 ม.ค. 64 อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 29 - 31 ม.ค. 64 อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 % ความยาวนานแสงแดด 6-9 ชม.

  • สำหรับเกษตรกรที่มีแหล่งน้ำเป็นของตนเองควรใช้น้ำที่เก็บกักไว้อย่างประหยัด โดยให้น้ำพืชครั้งละน้อยๆแต่บ่อยครั้ง หรือให้น้ำพืชในช่วงเย็นและค่ำ รวมทั้งวางแผนการใช้น้ำที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงแล้ง นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก เป็นต้น ซึ่งศัตรูพืชดังกล่าวจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง และด้อยคุณภาพ

ภาคใต้

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 25 - 26 ม.ค. 64 มีฝนร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในวันที่ 27 - 31 ม.ค. 64 มีฝนร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. อ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 % ความยาวนานแสงแดด 5-8 ชม.

ฝั่งตะวันตก มีฝนร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียสความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %

  • ระยะนี้ฝนตกไม่สม่ำเสมอ เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก ซึ่งศัตรูพืชดังกล่าวจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพ สำหรับทางตอนบนของภาค เกษตรกรควรกักเก็บน้ำ รวมทั้งควรใช้น้ำอย่างประหยัดเพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงแล้ง ส่วนทางตอนล่างของภาคแม้ปริมาณฝนจะลดลงแต่ความชื้นในดินยังคงมีอยู่ เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรครากเน่าโคนเน่าในไม้ผล โรครากขาวในยางพารา และโรคราสีชมพูในไม้ผลและยางพารา เป็นต้น
ลักษณะอากาศในช่วง 7 วันที่ผ่านมา

ลักษณะอากาศในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 18 - 24 มกราคม 2564 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนในวันแรกของสัปดาห์ จากนั้นมีกำลังอ่อนลง โดยบริเวณความกดอากาศสูงกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์ กับมีกระแสลมตะวันตกพัดจากประเทศเมียนมาเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคเหนือในวันที่ 19 ม.ค. ส่งผลให้เกือบทุกภาคของประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็นในระยะต้นและกลางสัปดาห์ โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศหนาวจัดบางพื้นที่ ส่วนในช่วงปลายสัปดาห์หลายพื้นที่มีอุณหภูมิสูงขึ้น สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงในระยะต้นสัปดาห์ จากนั้นอ่อนกำลังลง ทำให้ภาคใต้มีฝนส่วนมากทางฝั่งตะวันออกของภาค

ภาคเหนือ มีอากาศหนาวหลายพื้นที่ทางตอนบนของภาคในวันแรกของสัปดาห์ จากนั้นอุณหภูมิลดลงจนมีอากาศหนาวทั่วไปกับมีอากาศหนาวจัดบางพื้นที่ของจังหวัดตากในวันที่ 19-21 ม.ค. โดยในวันสุดท้ายของสัปดาห์มีอากาศหนาวทั่วไปทางตอนบนของภาค ส่วนทางตอนล่างของภาคมีอากาศเย็น สำหรับบริเวณเทือกเขาและยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด โดยมีฝนเล็กน้อย ร้อยละ 5 ของพื้นที่ในวันแรกของสัปดาห์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศหนาวทั่วไปในระยะครึ่งแรกของสัปดาห์ กับมีอากาศหนาวจัดบางพื้นที่ของจังหวัดนครพนมในวันที่ 19 ม.ค. จากนั้นอุณหภูมิสูงขึ้นแต่ยังคงมีอากาศหนาวหลายพื้นที่ส่วนมากทางตอนบนของภาค ส่วนทางตอนล่างของภาคมีอากาศเย็น สำหรับบริเวณเทือกเขาและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด ภาคกลาง มีอากาศเย็นทั่วไปตลอดสัปดาห์ กับมีอากาศหนาวเกือบทั่วไปในวันที่ 19-22 ม.ค. และมีอากาศหนาวบางพื้นที่ในวันที่ 18 และ 23 ม.ค.

ภาคตะวันออก มีอากาศเย็นทั่วไปเกือบตลอดสัปดาห์ กับมีอากาศหนาวบางพื้นที่ส่วนมากทางตอนบนของภาคในวันที่ 19-22 ม.ค. โดยมีฝนเล็กน้อยบางพื้นที่ในวันที่ 24 ม.ค. ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีอากาศเย็นหลายพื้นที่ตลอดสัปดาห์ กับมีอากาศหนาวบางพื้นที่ทางตอนบนของภาคในวันที่ 19-23 ม.ค. โดยมีฝนร้อยละ 5-35 ของพื้นที่ตลอดสัปดาห์ กับมีฝนหนักบางแห่งในวันที่ 22-23 ม.ค. ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีอากาศเย็นหลายพื้นที่เกือบตลอดสัปดาห์ โดยมีฝนร้อยละ 10-40 ของพื้นที่ในวันที่ 21, 23 และ 24 ม.ค.

สัปดาห์ที่ผ่านมาภาคใต้มีฝนตกหนักบริเวณจังหวัด สุราษฏร์ธานี และนราธิวาส โดยปริมาณฝนสูงสุด วัดได้ 39.8 มิลลิเมตร ที่ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 22 ม.ค.

ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ