พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 16 - 22 เมษายน พ.ศ.2564

ข่าวทั่วไป Friday April 16, 2021 15:13 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 16 - 22 เมษายน พ.ศ.2564

ออกประกาศวันศุกร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ.2564

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 46/64

การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 16-19 เม.ย. 64 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางระลอกใหม่/ จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ประกอบกับคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจะเคลื่อนผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคกลาง ในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนต่อเนื่องกันหลายวัน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฝนตกหนัก และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ สำหรับบริเวณทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง

ส่วนในช่วงวันที่ 20-22 เม.ย. 64 บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลงแต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรง เกิดขึ้นบางพื้นที่ โดยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน เนื่องจากลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในขณะที่ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน สำหรับลมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมบริเวณทะเลอันดามัน อ่าวไทย และภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง

คำเตือน ในช่วงวันที่ 16-19 เม.ย. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

คำแนะนำสำหรับการเกษตร

ภาคเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 16-19 เม.ย. 64 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ส่วนในวันที่ 20-22 เม.ย. 64 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 % ความยาวนานของแสงแดด 4-7 ชั่วโมง

  • ในช่วงวันที่ 16-19 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้ในบางพื้นที่เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย โดยหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตไว้กลางแจ้ง เพราะอาจเปียกชื้นเสียหายได้ จากนั้นมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก เช่น โรคใบด่าง และโรคใบเหี่ยวลาย เป็นต้น

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 16-19 เม.ย. 64 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 20-22 เม.ย. 64 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 % ความยาวนานของแสงแดด 5-7 ชั่วโมง

  • ในช่วงวันที่ 16-19 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้ในบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วยสำหรับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ เช่น โคและกระบือ เป็นต้น ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่กลางแจ้ง ขณะมีฝนฟ้าคะนอง เพราะสัตว์เลี้ยงอาจได้รับอันตรายจากฟ้าผ่าได้ จากนั้นอากาศจะร้อนสลับกับมีฝนในบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผักต่างๆ ไว้ด้วย

ภาคกลาง

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 16-19 เม.ย. 64 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 20-22 เม.ย. 64 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 % ความยาวนานของแสงแดด 4-7 ชั่วโมง

  • ในช่วงวันที่ 16-19 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้ในบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวัง อันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว จากนั้นจะมีอากาศร้อนสลับกับมีฝนได้ในบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกแมลงวันทองในพืชไร่ ไม้ผลไว้ด้วย

ภาคตะวันออก

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 16-19 เม.ย. 64 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 20-22 เม.ย. 64 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 % ความยาวนานของแสงแดด 4-7 ชั่วโมง

  • ในช่วงวันที่ 16-19 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้ในบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวัง อันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยสำรวจการค้ำยันกิ่งไม้ผลให้อยู่ในสภาพแข็งแรง เพื่อป้องกันกิ่งฉีกหัก ลำต้นโค่นล้ม ขณะมีลมแรง สำหรับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยงไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อ โดยทำเสริมขอบบ่อรอบบ่อเลี้ยงเพื่อป้องกันการไหลของน้ำฝนที่จะชะล้างแร่ธาตุและสารเคมีจากผิวดินลงสู่บ่อเลี้ยง ซึ่งอาจส่งผลอันตรายต่อสัตว์น้ำได้

ภาคใต้

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 16-19 เม.ย. 64 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 20-22 เม.ย. 64 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 % ความยาวนานของแสงแดด 4-8 ชั่วโมง

ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง โดยในช่วงวันที่ 16-19 เม.ย. 64 มีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 % ความยาวนานของแสงแดด 4-7 ชั่วโมง

  • มีฝนตกหนักบางพื้นที่ส่วนมากทางฝั่งตะวันตกของภาค เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง แปลงปลูกเมื่อมีฝนตกหนัก รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชสวน ไม้ผล และพืชผักไว้ด้วย สำหรับเกษตรที่เลี้ยงสัตว์น้ำ ควรเปิดเครื่องตีน้ำหลังจากฝนตก เพื่อคลุกเคล้าน้ำฝนกับน้ำในบ่อให้เป็นเนื้อเดียวกัน และเพิ่มออกซิเจนให้แก่น้ำ
ลักษณะอากาศในรอบ 7 วันที่ผ่านมา

ระหว่างวันที่ 9-15 เมษายน 2564 หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบนในวันแรกและระยะครึ่งหลังของช่วง ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลตลอดช่วง อนึ่งบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ในวันที่ 10-12 เม.ย. ลักษณะดังกล่าวทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนเกือบทั่วไปตลอดช่วงส่วนมากบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและตอนบนของภาคตะวันออก โดยมีฝนตกตลอดช่วง กับมีฝนฟ้าคะนองในหลายพื้นที่ส่วนมากในระยะต้นและกลางช่วง

สำหรับภาคใต้ได้รับอิทธิพลจากลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ในระยะต้นและกลางช่วง โดยมีกำลังแรงขึ้นในวันที่ 10-11 เม.ย. จากนั้นมีลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้มีฝนตลอดช่วงกับมีฝนหนักบางแห่ง

ภาคเหนือ มีอากาศร้อนเกือบทั่วไปตลอดช่วง โดยมีฝนร้อยละ 35-60 ของพื้นที่เกือบตลอดช่วง กับมีฝนบางแห่ง โดยมีรายงานพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดลำปางในวันที่ 9, 11, 12 และ 14 เม.ย. บริเวณจังหวัดแพร่และเพชรบูรณ์ในวันที่ 9 และ 13 เม.ย. บริเวณจังหวัดลำพูน 10, 11, 12 และ 14 บริเวณจังหวัดอุตรดิตถ์ในวันที่ 10 และ 13 เม.ย. บริเวณจังหวัดตากในวันที่ 11 เม.ย. บริเวณจังหวัดพิษณุโลกในวันที่ 11 และ 13 เม.ย. บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 11, 13 และ 14 เม.ย บริเวณจังหวัดพะเยาและกำแพงเพชรในวันที่ 13 เม.ย. บริเวณจังหวัดพิจิตรในวันที่ 13 และ 14 เม.ย. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศร้อนเกือบทั่วไปตลอดช่วง โดยมีฝนร้อยละ 5-50 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่งในวันที่ 9, 12, 13 และ 14 เม.ย. โดยมีรายงานพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดขอนแก่นในวันที่ 9 เม.ย. บริเวณจังหวัดนครราชสีมาในวันที่ 9, 12, 13 และ 14 เม.ย. บริเวณจังหวัดยโสธรในวันที่ 9 และ 13 เม.ย. บริเวณจังหวัดบุรีรัมย์ในวันที่ 12 เม.ย. บริเวณจังหวัดร้อยเอ็ดในวันที่ 12 และ 13 เม.ย. บริเวณจังหวัดมุกดาหาร หนองบัวลำภู มหาสารคาม บึงกาฬ และอุดรธานีในวันที่ 13 เม.ย. บริเวณจังหวัดศรีสะเกษและกาฬสินธุ์ ในวันที่ 13 และ 14 เม.ย. บริเวณจังหวัดอุบลราชธานีในวันที่ 14 เม.ย. และบริเวณจังหวัดนครพนมและสกลนครในวันที่ 15 เม.ย. ภาคกลาง มีอากาศร้อนเกือบทั่วไปตลอดช่วง โดยมีฝนร้อยละ 10-55 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่งในบางวันและมีฝนหนักมากบางพื้นที่ในวันที่ 10 เม.ย. และมีรายงานพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดสิงห์บุรีในวันที่ 9, 11 และ 13 เม.ย. บริเวณจังหวัดอ่างทองในวันที่ 11 และ 15 เม.ย. บริเวณจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในวันที่ 11 เม.ย. บริเวณจังหวัดอุทัยธานีในวันที่ 11 และ 14 เม.ย. บริเวณจังหวัดชัยนาทในวันที่ 12, 13 และ 14 เม.ย. บริเวณจังหวัดสระบุรีในวันที่ 9 และ 12 เม.ย. บริเวณจังหวัดนครสวรรค์และในวันที่ 13 เม.ย. บริเวณจังหวัดลพบุรีในวันที่ 13 และ 14 เม.ย. และบริเวณจังหวัดราชบุรีในวันที่ 14 เม.ย. ภาคตะวันออก มีอากาศร้อนทางตอนบนของภาคตลอดช่วง โดยมีฝนร้อยละ 45-75 ของพื้นที่เกือบตลอดช่วง กับมีฝนหนักบางแห่งเกือบตลอดช่วง และมีรายงานพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดปราจีนบุรีในวันที่ 11 เม.ย. และบริเวณจังหวัดฉะเชิงเทราในวันที่ 14 เม.ย. ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีอากาศร้อนบางพื้นที่ โดยมีฝนร้อยละ 15-50 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่งในระยะครึ่งหลังของช่วง ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีอากาศร้อนหลายพื้นที่ในระยะครึ่งแรกของช่วง โดยมีฝนร้อยละ 25-50 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่งในระยะครึ่งแรกของช่วง เว้นแต่ในวันที่ 13 เม.ย. มีฝนมากกว่าร้อยละ 85 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่ง

ช่วง 7 วันที่ผ่านมา มีฝนตกหนักมากบริเวณจังหวัดชัยนาท ส่วนบริเวณจังหวัดที่มีฝนตกหนัก ได้แก่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร เลย อุดรธานี มุกดาหาร กาฬสินธุ์ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ นครสวรรค์ อุทัยธานี สิงห์บุรี ลพบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี ราชบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา นราธิวาส ระนอง กระบี่ ตรัง และสตูล

ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ