พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 14 มีนาคม 2551 - 20 มีนาคม 2551

ข่าวทั่วไป Friday March 14, 2008 14:17 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ ระหว่าง 14 มีนาคม 2551 - 20 มีนาคม 2551 ภาคเหนือ อากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า สำหรับในตอนกลางวันมีฟ้าหลัวและมีอากาศร้อนบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ เกือบตลอดช่วง เกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดกับผลผลิตทางการเกษตรเนื่องจากฝนที่ตกในระยะนี้ด้วย ส่วนไม้ผลที่กำลังเจริญเติบโตทางผล ชาวสวนควรดูแลให้น้ำเพิ่มเติม รวมทั้งควรค้ำยันกิ่งหรือลำต้นที่รับน้ำหนักมากให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการหักโค่นเมื่อ มีลมกระโชกแรง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า สำหรับในตอนกลางวันจะมีฟ้าหลัวและมีอากาศร้อนบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากในช่วงวันที่ 14-18 มี.ค. เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้งในช่วงที่มีฝนตก ระยะนี้อากาศร้อน ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรจัดหาน้ำดื่มให้กับสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ และทำร่มเงาให้สัตว์เข้าพักอาศัยในช่วงที่มีแสงแดดจัด เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์เครียดและเจ็บป่วยได้ง่าย ภาคกลาง มีหมอกบางในตอนเช้า ส่วนในตอนกลางวันจะมีฟ้าหลัวและอากาศร้อน โดยจะมีฝนฟ้าคะนอง บางแห่งถึงเป็นแห่งๆ และลมกระโชกแรงบางแห่งเกือบตลอดช่วง ข้าวนาปรังที่อยู่ในระยะแตกกอ เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยชนิดต่างๆ ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยง ทำให้ข้าวชะงักการเจริญเติบโตและตายได้ ภาคตะวันออก มีหมอกบางในตอนเช้า ส่วนในตอนกลางวันจะมีฟ้าหลัวและอากาศร้อนทางตอนบนของภาค โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนมากตามบริเวณเทือกเขาและชายฝั่งเกือบตลอดช่วง สำหรับปริมาณฝนที่ตกในระยะนี้มีน้อย จึงควรดูแลให้น้ำแก่ไม้ผลที่กำลังเจริญเติบโตทางผล เช่น เงาะ ทุเรียน และมังคุด อย่างเพียงพอและควรคำนึงถึงการใช้น้ำอย่างประหยัดด้วย สำหรับบริเวณที่อากาศร้อน ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลอย่าให้อุณหภูมิและระดับน้ำเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพราะจะทำให้สัตว์เครียด อ่อนแอ และเจ็บป่วยได้ง่าย ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่ง ๆตลอดช่วง แต่ระยะนี้ปริมาณฝนลดลง สำหรับไม้ผลที่กำลัง ออกดอกและติดผลอ่อน ชาวสวนจึงควรดูแลให้น้ำเพิ่มเติม เพื่อป้องกันผลผลิตร่วงหล่น รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยชนิดต่างๆ ซึ่งจะทำให้ดอกและผลอ่อนร่วงหล่น ส่วนไม้ผลหรือไม้ยืนต้นที่ยังเล็ก เกษตรกรควรดูแลให้น้ำอย่างเพียงพอและทำร่มเงาเพื่อพรางแสงด้วย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ