ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 19 มีนาคม 2551 - 25 มีนาคม 2551
ภาคเหนือ
อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัว ในช่วงวันที่ 19-21 มี.ค.จะมีฝนฟ้าคะนองและกระโชกแรงบางแห่งส่วนในช่วงวันที่ 22-24 มี.ค.มีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเป็นแห่งๆ กับมีลูกเห็บตกในบางพื้นที่ เกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้กับอาคารบ้านเรือน โรงเรือนเลี้ยงสัตว์ และค้ำยันกิ่งหรือลำต้นของไม้ผลที่รับน้ำหนักมาก นอกจากนี้ควรตัดแต่งกิ่งไม้ยืนต้นที่แห้งหรือมีขนาดใหญ่ ซึ่งลมอาจพัด หักตกลงมาทำความเสียหายแก่อาคารบ้านเรือนได้
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัว ในช่วงวันที่ 19-21 มี.ค.จะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง บางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนในช่วงวันที่ 22-24 มี.ค.มีพายุฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรงเป็นแห่งๆ กับมีลูกเห็บตกในบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดกับผลผลิตทางการเกษตร จากสภาวะดังกล่าว โดยเฉพาะไม้ผลที่กำลังเจริญเติบโตทางผล ชาวสวนควรผูกโยงหรือค้ำยันกิ่ง ที่รับน้ำหนักมากให้แข็งแรง ส่วนผลผลิตที่แก่ดีแล้วควรรีบเก็บเกี่ยวเพื่อป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว สภาพอากาศที่ร้อนขึ้นอาจทำให้สัตว์เลี้ยงเครียด กินอาหารได้น้อยลง อ่อนแอและเจ็บป่วยได้ง่าย ดังนั้นเกษตรกรควรจัดน้ำดื่มให้อย่างเพียงพอ และดูแลโรงเรือนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทสะดวก
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 19-22 มี.ค.อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัว โดยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง บางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 23-25 มี.ค.มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเป็นแห่งๆ สำหรับไม้ผล ที่กำลังเจริญเติบโตทางผล ชาวสวนควรป้องกันความเสียหายเนื่องจากลมกระโชกแรง ตรวจสอบวัสดุ ค้ำยันกิ่งและลำต้นที่รับน้ำหนักมากให้แข็งแรง ในช่วงที่อากาศร้อนผู้ที่ปลูกไม้ดอก เช่น กล้วยไม้ ชนิดต่างๆ ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดด้วย
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 19-22 มี.ค.อากาศร้อนทางตอนบนของภาคกับมีฟ้าหลัว โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ถึงเป็นแห่งๆ และมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ส่วนมากตามบริเวณเทือกเขาและชายฝั่ง ส่วนในช่วงวันที่ 23-25 มี.ค.จะมีฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรงเป็นแห่งๆ ระยะนี้อากาศร้อน ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลปริมาณน้ำให้เหมาะสมกับปริมาณสัตว์ที่เลี้ยงและควรจัดทำร่มเงาให้สัตว์เข้าพักในช่วงที่มีแสงแดดจัด นอกจากนี้ควรตรวจสอบวัสดุที่ใช้ค้ำยันกิ่งและลำต้นของไม้ผลหรือไม้ยืนต้นและซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพที่แข็งแรง เพื่อป้องกันความเสียหายเนื่องจากลมกระโชกแรง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่ง ๆตลอดช่วง อย่างไรก็ดีปริมาณฝนที่ตกในระยะนี้มีน้อย ประกอบกับไม้ผลซึ่งกำลังออกดอกและติดผลอ่อน ดังนั้นชาวสวนจึงควรดูแลให้น้ำเพิ่มเติม เพื่อป้องกันผลผลิตร่วงหล่น นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืช เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆ ส่วนชาวสวนยางพาราควรทำแนวกันไฟรอบพื้นที่การเกษตรเพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-