พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 12 - 18 มกราคม พ.ศ. 2566

ข่าวทั่วไป Thursday January 12, 2023 13:54 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า

คาดหมายอากาศทั่วไป

ระหว่างวันที่ 12 - 18 มกราคม พ.ศ. 2566

ในช่วงวันที่ 13 - 15 ม.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนบางแห่งเกิดขึ้นได้ ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมบริเวณอ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังอ่อน แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ส่วนในวันที่ 16 - 18 ม.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 3 - 5 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมบริเวณอ่าวไทย และภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรงขึ้น บริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ข้อควรระวัง

ประชาชนบริเวณภาคใต้ให้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ในช่วงวันที่ 16 - 18 ม.ค.

ออกประกาศ 12 มกราคม 2566 11:00 น.

คาดหมายอากาศรายภาค

ระหว่างวันที่ 12 - 18 มกราคม พ.ศ. 2566

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 13 - 18 ม.ค. 66 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2 - 4 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 10 - 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 - 30 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 4 - 11 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10 - 25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 13 - 14 ม.ค. 66 อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1 - 2 องศาเซลเซียส

โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 16 - 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24 - 29 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.

ส่วนในวันที่ 15 - 18 ม.ค. 66 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 3 - 5 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 14 - 17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 21 - 26 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10 - 14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม.

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 13 - 15 ม.ค. 66 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 21 - 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 - 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.

ส่วนในวันที่ 16 - 18 ม.ค. 66 อากาศเย็นกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 - 3 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 19 - 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 - 31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 12 - 15 ม.ค. 66 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 21 - 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 - 33 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ส่วนในวันที่ 16 - 18 ม.ค. 66 อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 - 2 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 19 - 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 - 31 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 - 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 12 - 15 ม.ค. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 16 - 18 ม.ค. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค

ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

อุณหภูมิต่ำสุด 22 - 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 - 33 องศาเซลเซียส

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 12 - 13 ม.ค. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 14 - 18 ม.ค. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1 - 2 เมตร

อุณหภูมิต่ำสุด 22 - 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 - 34 องศาเซลเซียส

กรุงเทพและปริมณฑล

ในช่วงวันที่ 13 - 15 ม.ค. 66 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 22 - 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 - 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 16 - 18 ม.ค. 66 อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 - 3 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 21 - 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 - 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม.

ออกประกาศ 12 มกราคม 2566 11:00 น.

เนื้อหาในหน้านี้

คาดหมายอากาศ 7 วันแบบอินโฟกราฟิก

คาดหมายอากาศทั่วไป

คาดหมายอากาศรายภาค

วันที่โพส 12 มกราคม 2566

|

แก้ไขล่าสุด 12 มกราคม 2566

ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ