พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 7 พฤศจิกายน 2551 - 13 พฤศจิกายน 2551
การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 7-8 พ.ย. ร่องความกดอากาศต่ำกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคใต้ตอนกลางเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ตอนล่าง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีตกชุกหนาแน่นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ คลื่นลมในอ่าวไทยโดยเฉพาะในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือของประเทศไทย ทำให้มีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในระยะนี้
สำหรับในช่วงวันที่ 9-13 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบนอีกครั้งหนึ่ง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองในระยะแรกและอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา กับมีลมแรง ส่วนร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น โดยจะมีฝนหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ และคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นด้วย โดยมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ข้อควรระวัง ในระยะนี้ขอให้ประชาชนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคใต้โดยเฉพาะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พัทลุง ตรังและสตูลระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักถึงหนักมากที่จะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากที่จะเกิดขึ้นได้ ส่วนชาวเรือในอ่าวไทยและในทะเลอันดามันขอให้ระวังอันตรายในการเดินเรือโดยเฉพาะบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักไว้ด้วย ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือขอให้รักษาสุขภาพเนื่องจากมีอากาศหนาวเย็นลง
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 7-8 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา และมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ส่วนในวันที่ 9-13 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลงอีก 2-3 องศา กับมีฝนบางแห่ง ถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 7-8 พ.ย. อากาศเย็นทางตอนบนของภาค และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในวันที่ 9-13 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลงอีก 2-4 องศา กับมีลมแรง และมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 7-9 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30
กม./ชม. ส่วนในวันที่ 10-13 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา และมีอากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 7-9 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-60 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35
กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนในวันที่ 10-13 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา และมีอากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง มากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ส่วนมากในช่วงวันที่ 7-11 พ.ย. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งส่วนมากในช่วงวันที่ 7-11 พ.ย. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ใกล้ฝั่งทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 7-9 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30
กม./ชม. ส่วนในวันที่ 10-13 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา และมีอากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74