ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 21 สิงหาคม 2552 - 27 สิงหาคม 2552
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 21-22 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 23-27 ส.ค.มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรเริ่มกักเก็บน้ำสำรองเอาไว้ใช้ทางด้านการเกษตรโดยเฉพาะบริเวณทางตอนบนสุดของภาค สำหรับไม้ผลที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้ว เกษตรกรควรตัดแต่งกิ่งให้ทรงพุ่มโปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวกเพื่อลดความชื้นภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 21-22 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 23-27 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนบนของภาค สำหรับบริเวณที่มีฝนตกอาจทำให้เกิดสภาพน้ำขัง เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการย่ำน้ำที่สกปรกหากมีความจำเป็นควรสวมรองเท้าบูท เพื่อป้องกันโรคฉี่หนู ส่วนสัตว์เลี้ยงเกษตรกรไม่ควรปล่อยให้ตากฝนหรืออยู่ในที่ชื้นแฉะโดยเฉพาะสัตว์เท้ากีบ เพื่อป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อย
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 21-23 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ส่วนในช่วงวันที่ 24-27 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรวางแผนจัดการน้ำในพื้นที่เพาะปลูกให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งดูแลอุปกรณ์สำหรับระบายน้ำให้พร้อมใช้งาน นอกจากนี้ควรเตรียมที่สำหรับอพยพสัตว์เลี้ยงไปไว้ในที่สูงน้ำท่วมไม่ถึง และสำรองอาหารและน้ำสำหรับสัตว์ไว้ให้พร้อมหากเกิดสภาวะน้ำท่วมในระยะต่อไป
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 21-22 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 23-27 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับสวนผลไม้ที่อยู่บริเวณที่ลุ่ม เกษตรกรควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นที่สะสมในสวน ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยตัดแต่งกิ่งเพื่อให้แสงแดดส่องได้ถึงโคนต้น สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนอย่าให้อับชื้น ซึ่งจะส่งผลให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอจนเป็นโรคได้ง่าย
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ทางฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 21-22 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 23-27 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ส่วนทางฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 21-22 มีฝนฟ้าคะนองกระจาย โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 23-27 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง ระยะนี้ภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีปริมาณฝนมากกว่าทางฝั่งตะวันออก เกษตรกรควรดูแลระบบระบายน้ำอย่าให้ติดขัดและตื้นเขิน เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังเมื่อมีฝนตกหนัก สำหรับผู้ที่ปลูกปาล์มน้ำมันในระยะนี้ควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง อนึ่ง ในช่วงวันที่ 23-27 ส.ค.บริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74