พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 11 ธันวาคม 2552 - 17 ธันวาคม 2552

ข่าวทั่วไป Friday December 11, 2009 15:08 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 11 ธันวาคม 2552 - 17 ธันวาคม 2552

ภาคเหนือ

ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-12 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในหลายพื้นที่โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 11-13 ธ.ค. เกษตรกรควรใช้ความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา ส่วน พืชผักตระกูลกะหล่ำและผักกาด เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของหนอนใยผัก ซึ่งอาจกัดกินใบและยอดเสียหาย สำหรับผู้ที่ก่อไฟผิงเพื่อเพิ่มความอบอุ่นควรดับไฟให้สนิททุกครั้งหลังเลิกใช้งานเพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 11-13 ธ.ค. ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-12 องศาเซลเซียส อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 14-17 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส และหมอกจะลดลง เกษตรกรไม่ควรตากข้าวเปลือกไว้กลางแจ้งข้ามคืนเพราะจะทำให้เปียกชื้นเสียหายจากน้ำค้าง นอกจากนี้สภาพอากาศที่เย็นและชื้นอาจ ทำให้มีโรคใบไหม้ที่เกิดจากเชื้อราระบาดในมะเขือเทศได้ หากพบพืชเป็นโรครุนแรงควรถอนต้นที่เป็นโรคทิ้งและเผาทำลาย เพื่อลดการระบาดของโรค

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 11-14 ธ.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขามีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส หลังจากนั้น อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส และหมอกจะลดลงเกษตรกรที่จะปลูกพืชรอบใหม่ควรเลือกพืชที่มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น ใช้น้ำน้อยแทนการปลูกข้าวนาปรัง เพื่อลดความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำ ส่วนผลผลิตทางการเกษตรไม่ควรตากไว้กลางแจ้งข้ามคืนเพราะจะทำให้ เปียกชื้นเสียหายจากหมอกและน้ำค้าง

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 11-14 ธ.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส หลังจากนั้น อุณหภูมิลดลง 1-3 องศาเซลเซียส และหมอกจะลดลง ไม้ผลที่อยู่ในระยะออกดอก เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ผลผลิตลดลง และควรใช้วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ฟางข้าว หญ้าแห้ง และใบไม้ คลุมบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยเพื่อรักษาความชื้นในดิน

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ฝั่งตะวันออกทางตอนบนของภาคอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 11-14 ธ.ค. ทางตอนล่างของภาคมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ในช่วงวันที่ 15-17 ธ.ค. ทางตอนล่างของภาคมีฝนฟ้าคะนองกระจายและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนทางฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 11-14 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ในช่วงวันที่ 15-17 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต ทางผล ชาวสวนควรดูแลให้น้ำอย่างเพียงพอ เพราะหากขาดน้ำจะทำให้ผลชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตด้อยคุณภาพ ส่วนบริเวณที่มีฝนตก เกษตรกรควรกักเก็บน้ำสำรองใว้ใช้ในช่วงที่ขาดแคลนน้ำ

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74

-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ