ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 18 มกราคม 2553 - 24 มกราคม 2553
ภาคเหนือ
มีหมอกในตอนเช้า ตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส ส่วนตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส โดยในช่วงวันที่ 20-24 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีลมกระโชกแรงในบางพื้นที่ในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส ช่วงนี้สภาพอากาศหนาวเย็น เกษตรกรควรเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกายและสัตว์เลี้ยง ส่วนพืชผลทางการเกษตรที่แก่ดีแล้วควรรีบเก็บเกี่ยวก่อนช่วงวันที่ 20-24 ม.ค. เพื่อป้องกันไม่ให้ผลผลิตเปียกชื้นเสียหายจากฝน นอกจากนี้ชาวสวนควรค้ำยันกิ่งและลำต้นของไม้ผลให้แข็งแรง เพื่อป้องกันกิ่งหักโค่นจากลมกระโชกแรง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศาเซลเซียส ส่วนตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-13 องศาเซลเซียส โดยในช่วงวันที่ 20-24 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีลมกระโชกแรงในบางพื้นที่ ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรดูแลรักษาสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง รวมทั้งควรป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตรจากฝนและลมกระโชกแรง สำหรับไร่นาที่เก็บเกี่ยวไปแล้วเกษตรกรไม่ควรเผาตอซัง เพราะควันไฟอาจจะทำให้ทัศนวิสัยบนท้องถนนลดลงและก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
ภาคกลาง
อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-13 องศาเซลเซียส โดยในช่วงวันที่ 20-24 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ฝนที่ตกในระยะนี้จะเป็นผลดีต่อพืชที่กำลังเจริญเติบโตและบรรเทาการระบาดของแมลงศัตรูพืชจำพวกเพลี้ย นอกจากนี้เกษตรกรควรกักเก็บน้ำฝนไว้ใช้ในระยะต่อไปด้วย สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพราะจะทำให้สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 18-19 ม.ค. อากาศเย็น และมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-14 องศาเซลเซียส โดยในช่วงวันที่ 20-24 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้ง และควรกักเก็บน้ำฝนไว้ใช้ในระยะต่อไปด้วย
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 18-19 ม.ค. อากาศเย็นในตอนเช้าทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนในช่วงวันที่ 20-24 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนทางฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 18-20 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนในช่วงวันที่ 21-24 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกจะมีฝนตกหนักในช่วงวันที่ 20-24 ม.ค. เกษตรกรควรป้องกันการเกิดน้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืช อนึ่ง ระยะนี้คลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ ส่วนเรือเล็กในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปควรงดออกจากฝั่ง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74