พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งระหว่าง 20 มกราคม 2553 - 26 มกราคม 2553

ข่าวทั่วไป Wednesday January 20, 2010 14:36 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 20 มกราคม 2553 - 26 มกราคม 2553

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 20-23 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีหมอกในตอนเช้า ตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส ส่วนตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 24-26 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ และมีลมกระโชกแรงในบางพื้นที่ในระยะแรกจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว รวมทั้งไม่ตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้ง นอกจากนี้ควรดูแลรักษาสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงในช่วงที่อุณหภูมิลดต่ำลง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 20-23 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส ส่วนตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-13 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 24-26 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ และมีลมกระโชกแรงในบางพื้นที่ จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว หลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้ง และควรดูแลรักษาสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงในช่วงที่อุณหภูมิลดต่ำลง ส่วนพื้นที่การเกษตรที่มีฝนตกน้อย เกษตรกรที่ปลูกหอม กระเทียม และพืชผักอื่น ๆ ควรคลุมด้วยฟางข้าวหรือหญ้าแห้ง เพื่อลดการระเหยของน้ำและลดความรุนแรงจากแสงแดด

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 20-23 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-16 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 24-26 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง และมีลมกระโชกแรงในบางพื้นที่ เกษตรกรควรผูกยึดและค้ำยันกิ่งและ ลำต้นของไม้ผลให้แข็งแรง เพื่อป้องกันความเสียหาย ผลผลิตที่เก็บเกี่ยวมาแล้วไม่ควรผึ่งไว้กลางแจ้ง เพราะจะเปียกฝนเสียหายได้ สำหรับไม้ผลที่กำลังติดผลอ่อน อาจมีแมลงศัตรูพืชจำพวกปากดูดระบาด ชาวสวนจึงควรหมั่นสำรวจสวน หากพบควรรีบป้องกันกำจัด

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 20-23 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-14 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 23-26 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เกษตรกรไม่ควรตากผลผลิตที่เก็บเกี่ยวมาแล้วไว้กลางแจ้ง เพราะจะเปียกฝนเสียหาย และควรกักเก็บน้ำฝนไว้ใช้ในช่วงที่ขาดแคลนน้ำ สำหรับผู้เลี้ยงสัตว์น้ำในช่วงที่อุณหภูมิลดต่ำลงควรดูแลสภาพน้ำอย่าให้อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพราะอาจทำให้สัตว์น้ำตายได้

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 20-23 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีอากาศเย็นในตอนเช้าทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนในช่วงวันที่ 22-24 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนทางฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 20-21 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ส่วนในช่วงวันที่ 22-24 ม.ค. มีเมฆบางส่วนกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ในช่วงนี้คลื่นลมในอ่าวไทยยังคงมีกำลังแรง ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ ส่วนเรือเล็กในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปควรงดออกจากฝั่ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74

-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ