พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2553 - 1 มีนาคม 2553
การคาดหมาย ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ส่งผลให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงได้บางแห่ง และในช่วงวันที่ 24-27 ก.พ. หย่อมความกดอากาศต่ำจากความร้อนจะปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นและมีอากาศร้อนกับฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อนึ่งในช่วงวันที่ 28 ก.พ. -1 มี.ค. คลื่นกระแสลมตะวันตกจะพาดผ่านภาคเหนือ ของประเทศไทยตอนบน ซึ่งทำให้มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงได้ในระยะนี้ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 22-23 ก.พ. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 23-27 ก.พ.ในตอนเช้ามีหมอกและทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศา โดยมีฟ้าหลัวและอากาศร้อนในตอนกลางวัน ในช่วงวันที่ 28 ก.พ. -1 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 23-24 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 25 ก.พ. -1 มี.ค. มีฟ้าหลัวและอากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศา โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 23-24 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 25 ก.พ.-1 มี.ค. อากาศร้อนกับฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศา
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 23-24 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 25ก.พ.-1มี.ค. ทางตอนบนของภาคมีอากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศา โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่งและเทือกเขา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 23-24 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่
อ่าวไทยตอนบน ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
อ่าวไทยตอนล่าง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 25 ก.พ.-1มี.ค. มีเมฆบางส่วนกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 23-24 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 25ก.พ.-1มี.ค. มีฟ้าหลัวกับอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74