ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 31 พฤษภาคม 2553 - 06 มิถุนายน 2553
ภาคเหนือ
ช่วงวันที่ 31 พ.ค.-2 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ และช่วงวันที่ 3-6 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับไม้ผลที่กำลังให้ผลผลิตในช่วงนี้ เกษตรกรควรระวังและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดกับผลผลิต เนื่องจากฝนที่ตก ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่อับชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์เจ็บป่วยได้ง่าย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ช่วงวันที่ 31 พ.ค. -1 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย และช่วงวันที่ 2-6 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนบนและตะวันออกของภาค สำหรับชาวนาที่หว่านกล้าในระยะนี้ ไม่ควรหว่านแน่นจนเกินไป เพื่อช่วยลดความชื้นในแปลงกล้า ที่เอื้อต่อการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา นอกจากนี้ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เจ็บป่วยได้ง่าย
ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึง กระจาย เว้นแต่ช่วงวันที่ 3-5 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค เกษตรกรโดยเฉพาะทางด้านฝั่งตะวันตกของภาค ส่วนผู้ที่ต้องการปลูกพืชไร่รอบใหม่ ควรชุบท่อนพันธุ์หรือคลุกเมล็ดพันธุ์ด้วยสารป้องกันเชื้อราก่อนปลูก ส่วนผู้ที่ปลูกไม้ดอกไม้ประดับควรแก้ไขพื้นที่เพาะปลูกไม่ให้อับชื้น เพื่อลดความเสี่ยงของการระบาดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
ภาคตะวันออก
ช่วงวันที่ 31 พ.ค.- 2 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง และช่วงวันที่ 3-6 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง ชาวสวนไม้ผลที่กำลังเก็บเกี่ยวผลผลิตควรเก็บไม้ผลที่เน่าเสียออกจากแปลงปลูก ไม่ปล่อยให้หมักหมม กลายเป็นแหล่งสะสมและเพาะเชื้อโรคได้ง่ายในสภาพอากาศชื้น นอกจากนี้ผู้ที่เตรียมดินเพื่อปลูกพืชผักรอบใหม่ ควรปรับหรือยกร่องให้สามารถระบายน้ำได้ดี
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ส่วนมากทางตอนบนของภาค ตลอดช่วง ส่วนทางฝั่งตะวันตกช่วงวันที่ 31 พ.ค.- 2 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย และช่วงวันที่ 3-6 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับทางฝั่งตะวันตกจะมีฝนมากกว่าทางฝั่งตะวันออก และจะมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ พื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรจัดทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชนาน เป็นสาเหตุให้รากพืชขาดอากาศหายใจและตายได้ รวมทั้งอาจทำให้เกิดโรครากเน่าโคนเน่า อนึ่งในช่วงวันที่ 3-6 มิ.ย. ชาวประมงควรเพิ่มความความระมัดระวังในการเดินเรือเนื่องจากคลื่นลมที่แรงขึ้น
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74