โค้งสุดท้ายอาเซียนเร่งฝีเท้าเข้าสู่เออีซีปี 2558

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday March 5, 2015 17:30 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

‘รมช.พาณิชย์’ นำผู้แทนไทยถกรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ที่เมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน เมืองด่านชายแดนไทย-มาเลเซีย เร่งขับเคลื่อนประเทศสมาชิกอาเซียนเข้าสู่เส้นชัยเออีซีปลายปีนี้

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้นำผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (AEM Retreat) ครั้งที่ 21 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม 2558 ณ เมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจครั้งแรกของปี 2558 อันเป็นปีสำคัญที่อาเซียนจะก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างสมบูรณ์

นางอภิรดี กล่าวว่า การประชุมในปีนี้ มาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนเน้นเร่งการดำเนินมาตรการเข้าสู่ AEC ตามที่อาเซียนตกลงกันไว้ให้แล้วเสร็จ โดยมาตรการที่มีความสำคัญในลำดับต้นซึ่งมีผลต่อการค้า ภาคธุรกิจ และการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของอาเซียน เช่น การลด/เลิกมาตรการที่มิใช่ภาษี การสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคธุรกิจโดยเฉพาะ SMEs การสรุปผลการเจรจา RCEP

ขณะนี้ อาเซียนได้ลดภาษีนำเข้าระหว่างกันเหลือ 0% เกือบหมดแล้ว อาเซียนจึงตกลงกันที่จะดำเนินการอย่างเข้มข้นและจริงจัง เพื่อลด/เลิกมาตรการที่มิใช่ภาษีที่เป็นอุปสรรคทางการค้า โดยทุกประเทศเห็นร่วมกันว่าอาเซียนควรมีกลไกที่เข้มแข็งและมีการตรวจสอบข้อร้องเรียนจากภาคธุรกิจ ในเรื่องมาตรการที่มิใช่ภาษีอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้ง มีการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ อาเซียนจะปรับปรุงระบบการรับเรื่องร้องเรียนที่มีอยู่เดิมให้ใช้ได้ง่ายขึ้น และให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จของ AEC

“อาเซียนจะให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้มแข็ง การอำนวยความสะดวกทางการค้า การขยายโอกาสทางการค้าการลงทุนให้กับภาคธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจ SMEs ซึ่งถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ของธุรกิจในอาเซียน โดยรัฐมนตรีเศรษฐกิจตกลงให้มีการจัดตั้งคณะทำงานร่วมภาครัฐและเอกชนของอาเซียน เพื่อร่วมหารือปัญหาอุปสรรคและรับฟังข้อเสนอแนะจากภาคธุรกิจ และนำข้อคิดเห็นต่างๆ มาจัดทำความตกลงการอำนวยความสะดวกทางการค้าของอาเซียนให้เกิดประโยชน์สูงสุด” นางอภิรดี กล่าว

ในด้านการสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคเอกชน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียได้นำเสนอโครงการเพื่อเพิ่มการค้าการลงทุนของผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่ กลาง และเล็กของอาเซียน โดยการนำกลุ่มนักธุรกิจ/บริษัทจากประเทศต่างๆในอาเซียนในสาขาต่างๆ ที่กำลังแสวงหาการค้าและการลงทุนภายในภูมิภาคเดินทางไปในประเทศต่างๆ เพื่อร่วมระดมความคิด ระบุปัญหาอุปสรรคของการค้าลงทุนในแต่ละประเทศ และพบปะกับภาครัฐเพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหา ซึ่งรัฐมนตรีเศรษฐกิจเห็นประโยชน์ของข้อเสนอโครงการนี้ และจะศึกษาในรายละเอียด โดยเห็นว่าการเข้าร่วมโครงการต้องเป็นไปโดยสมัครใจ

นอกจากนี้ ผู้แทนภาคธุรกิจของมาเลเซียในฐานะประธานสภาธุรกิจอาเซียนในปีนี้ ได้เข้าพบรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนเพื่อนำเสนอประเด็นที่ต้องการการสนับสนุนจากภาครัฐ โดยประเด็นที่สำคัญ ได้แก่ การจัดตั้งธนาคารเพื่อผู้ประกอบการขนาดย่อย ขนาดเล็ก และขนาดกลาง (MSME Bank) การจัดตั้งสมาคมผู้ประกอบการรุ่นใหม่และสมาคมผู้ประกอบการสตรีของอาเซียน การจัดให้มีช่องทางเข้าเมืองสำหรับคนจากอาเซียน ณ จุดเข้าเมืองต่างๆ (ASEAN Lane) เป็นต้น ซึ่งรัฐมนตรีเศรษฐกิจเห็นว่าควรมีการแบ่งกลุ่มข้อเสนอของภาคเอกชนเป็นมาตรการที่ดำเนินการในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยมาตรการใดที่ทำได้ง่าย เช่น การจัดตั้งสมาคมต่างๆ และการจัดทำ ASEAN Lane น่าจะสามารถดำเนินการได้ทันที ส่วนข้อเสนอการจัดตั้งธนาคาร MSME จะเป็นมาตรการที่ต้องดำเนินการในระยะยาว

นางอภิรดี กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐมนตรีอาเซียนเห็นพ้องกันให้สรุปการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ RCEP ให้ได้ภายในปี 2558 ตามที่กำหนดไว้ โดยอาเซียนจะต้องมีบทบาทเป็นศูนย์กลางในการผลักดันให้การเจรจามีความคืบหน้า และสามารถตกลงกันได้ในเรื่องสำคัญ ได้แก่ การจัดทำรูปแบบการลดภาษี และการเปิดเสรีบริการและการลงทุน ซึ่งอาเซียนทุกประเทศตกลงกันที่จะยื่นข้อเสนอการเปิดตลาดสินค้า บริการ และการลงทุนก่อนการเจรจารอบต่อไปในเดือนมิถุนายน 2558 เพื่อเร่งรัดการเจรจาให้สามารถสรุปผลได้ตามกำหนดเวลา

สำหรับในเรื่องประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนภายหลังปี 2558 อาเซียนกำลังพิจารณาจัดทำร่างวิสัยทัศน์ของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนภายหลังปี 2558 ซึ่งคาดว่าอาเซียนจะมีการรวมกลุ่มกันอย่างเข้มข้น โดยอาจจะเปิดเสรีเพิ่มขึ้นรวมทั้งมีการปรับประสานมาตรฐาน กฎระเบียบต่างๆให้สอดคล้องกันมากขึ้น เพื่อให้อาเซียนเป็นภูมิภาคที่สามารถแข่งขันได้ในเศรษฐกิจโลกได้อย่างมั่นคง โดยอาเซียนมีกำหนดจะจัดทำวิสัยทัศน์ด้านเศรษฐกิจให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 2558 และนำเสนอต่อรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนในเดือนสิงหาคม 2558 ก่อนผู้นำอาเซียนจะประกาศวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ซึ่งรวมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม และการเมืองและความมั่นคงในช่วงการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 27 ในเดือนพฤศจิกายนนี้

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000

โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ