ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถรับซื้อผลผลิตได้ประมาณ 30 ตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 864,900 บาท โดยผลผลิตที่รับซื้อได้จะนำส่งไปจำหน่ายให้แก่ศูนย์รับซื้อและแปรรูปฯ จ.อุดรธานี เพื่อแปรรูปเป็นยางแท่ง STR 20 (Standard Thai Rubber 20) ซึ่งองค์การสวนยางได้ใช้วัตถุดิบยางก้อนถ้วยและเศษยางที่รับซื้อจากเกษตรกรในแต่ละพื้นที่ไปผลิตด้วยกรรมวิธีมาตรฐาน โดยมีอุตสาหกรรมยางล้อรถยนต์เป็นผู้ใช้รายใหญ่
สำหรับราคารับซื้อยางก้อนถ้วยคิดตามเปอร์เซ็นต์ยางพาราที่อ้างอิงตามราคาจากศูนย์รับซื้อและแปรรูปยางพารา จ.อุดรธานี อยู่ที่ 48 บาท/กก. แต่ศูนย์รับซื้อ อสย. จังหวัดพิษณุโลก จะรับซื้อยางก้อนถ้วยที่ราคา 46 บาท/กก.(ณ ระดับเปอร์เซ็นต์คุณภาพยางพารา 100%) เนื่องจากหักต้นทุนค่าขนส่ง 2 บาท/กก. ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ อสย. ทราบว่า ผลผลิตยางก้อนถ้วยของเกษตรกรส่วนใหญ่ที่นำมาจำหน่าย ประมาณร้อยละ 80 เป็นยางก้อนถ้วยสดที่มีเปอร์เซ็นต์ยางพารา 57.57% ราคารับซื้ออยู่ที่ 26.48 บาท/กก. ส่วนอีกร้อยละ 20 เป็นยางก้อนถ้วยแห้งที่มีเปอร์เซ็นต์ยางพารา 70% ราคารับซื้ออยู่ที่ 32.20 บาท/กก.
การดำเนินการเปิดจุดรับซื้อครั้งนี้ ไม่พบปัญหาอุปสรรคใดๆ มีเพียงข้อเสนอแนะจากประธานกลุ่มสหกรณ์การเกษตรยางพาราพิษณุโลก จำกัด ที่เสนอให้ภาครัฐดำเนินโครงการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นให้ช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลอย่างถูกต้อง เนื่องจากสามารถตรวจสอบผลสำเร็จของการดำเนินโครงการได้จากผลประกอบการทางด้านบัญชีของกลุ่มสหกรณ์