นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทช่วงเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 33.76/77 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 33.76/78 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างเคลื่อนไหวแคบระหว่าง 33.75-33.78 บาท/สตางค์
"ภาพรวมตลาดวันนี้ ทั้งวันมีทั้งแรงซื้อแรงขาย Flow สิ้นเดือน แต่ดูแล้วก็ไม่ได้ขยับไปไหนไกล คาดว่าตลาดคงรอดูความคืบหน้าสถานการณ์กรีซว่าสุดท้ายแล้วสหภาพยุโรปจะตัดสินใจยังไง และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะออกมาวันพฤหัสที่ 2 ก.ค." นักบริหารเงิน กล่าว
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพรุ่งนี้เป็นวันหยุดครึ่งปีของธนาคารในประเทศไทย และจะกลับมาเปิดทำการในวันที่ 2 ก.ค.เบื้องต้นจึงประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทไว้ระหว่าง 33.75-33.90 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 33.7650 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 122.12 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 122.44/49 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1160 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.1194/1196 ดอลลาร์/ยูโร
- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงปัญหาเศรษฐกิจของประเทศกรีซ ได้มีการพูดคุยกับนายสมหมาย ภาษี รมว.คลังแล้ว และรมว.คลังชี้แจงในที่ประชุม ครม.ว่าอาจจะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากนัก เนื่องจากไทยไม่ได้ค้าขายโดยตรงกับกรีซ แต่น่ากังวลกรณีทีอาจจะส่งผลต่อประชาคมยุโรปมากกว่า เพราะหากประชาคมยุโรปตัดกรีซออกจากประเทศสมาชิกอาจจะส่งผลให้กรีซเป็นประเทศล้มละลายได้
- นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดว่า ในช่วงสัปดาห์นี้ตลาดการเงินโลกน่าจะมีความผันผวนเป็นระยะๆ จากความไม่แน่นอนในสถานการณ์ปัญหาหนี้กรีซ ซึ่งจะส่งผลทางอ้อมต่อค่าเงินยูโร ซึ่ง ธปท.จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเตรียมความพร้อมเพื่อดูแลรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินไทย
- ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)แถลงภาวะเศรษฐกิจและการเงินในเดือน พ.ค.58 ว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังเป็นไปอย่างช้าๆ และเปราะบาง โดยมีเพียงภาคการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายลงทุนของภาครัฐเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขณะที่การส่งออกสินค้ายังคงซบเซาและการใช้จ่ายภาคเอกชนอ่อนแอ สอดคล้องกับการนำเข้าสินค้าที่หดตัว ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำใกล้เคียงกับเดือนก่อน ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบต่อเนือง และดุลบัญชีเดินสะพัดยังคงเกินดุล
- ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ เดือนพ.ค. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ระดับ 45.2 มาอยู่ที่ ระดับ 50.3 จากความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมเป็นหลัก เนื่องจากวันทำการในเดือนนี้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนที่มีวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ส่งผลให้องค์ประกอบย่อยด้านการผลิตปรับเพิ่มขึ้นมาก
- สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม(MPI) ในภาพรวมเดือน พ.ค.58 หดตัวลดลง 7.6% มาที่ 158.85 จาก MPI พ.ค.57 ที่ 172.00 แต่เพิ่มขึ้น 9.4% จากเม.ย.58 ซึ่ง MPI อยู่ที่ 145.71
- มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส เปิดเผยว่า การที่ธนาคารรายใหญ่ 3 แห่งของไทย ซึ่งได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) และธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ต่างมุ่งเน้นในสาขาที่แตกต่างกัน รวมทั้งการมีวินัยที่แข็งแกร่งในการทำอันเดอร์ไรท์นั้น จะช่วยสนับสนุนให้ธนาคารทั้ง 3 แห่งนี้มีศักยภาพในการกำหนดราคาในแง่ของการกู้ยืม แม้จะต้องเผชิญกับคุณภาพสินทรัพย์ในระบบที่อ่อนแอลงก็ตาม