กอช.ปลื้มยอดสมาชิกเกิน 5 แสนคน เล็งเพิ่มเพดานสมทบเงินออมให้สมาชิกเป็น 1,500 บ./คน

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday September 29, 2016 16:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กล่าวว่า หลังจากที่ พ.ร.บ.การให้สิทธิแก่ผู้สมัครเป็นสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติบางกรณีฯ ได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษา มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 25 ก.ย.58 และให้มีผลภายใน 1 ปี นับจากวันที่พ.ร.บ.ฉบับนี้มีผลบังคับใช้ (สิ้นสุดวันที่ 25 ก.ย.59) หลังจากนั้นเป็นต้นมา กอช.ได้มีการประชาสัมพันธ์ข้อมูลสิทธิประโยชน์ของประชาชนตามข้อกำหนดเงื่อนไขของกฎหมายฉบับดังกล่าว ผ่านสื่อมวลชนและช่องทางการสื่อสารต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง

นับตั้งแต่การประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกันตนตามกฎหมายประกันสังคม มาตรา 40 (3) ที่ยกเลิกดำเนินการ สามารถแจ้งโอนย้ายมาเป็นสมาชิก กอช. ได้ ซึ่งหมดเขตให้แจ้งความประสงค์ไปเมื่อเดือนก.พ.59 ต่อเนื่องมาจนถึงการประชาสัมพันธ์ทุกช่องทางให้ผู้มีอายุ 50 ปีขึ้นไป และผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป สมัครเป็นสมาชิก กอช. แล้วได้รับสิทธิออม 10 ปี ซึ่งหมดเขตรับสมัครตามเงื่อนไขนี้ไปเมื่อวันที่ 25 ก.ย.59

โดยจากรายงานผลการรับสมัครสมาชิก นับจากต้นเดือนก.ย.จนถึง 25 ก.ย.59 กองทุนมีสมาชิกเพิ่มขึ้น 72,185 ราย จำนวนเงินสะสมเพิ่มขึ้น 111.4 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตของจำนวนสมาชิก 16.6% นับว่าเป็นยอดการสมัครสมาชิกเพียงเดือนเดียวที่ทำให้กองทุนมีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ

อย่างไรก็ดี คณะกรรมการฯ ยังได้รับรายงานผลตอบรับจากประชาชนที่ใช้บริการสมัครสมาชิก กอช.อีกจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งทุกข้อคิดเห็นข้อเสนอแนะที่ได้รับนั้นเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการบริหารงานกองทุน และการปรับปรุงสิทธิประโยชน์ของผู้เป็นสมาชิกได้ต่อไปในอนาคต

นายสมพร จิตเป็นธม เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เปิดเผยว่า อัตราการเติบโตของจำนวนสมาชิกในเดือนก.ย. มีการเติบโตในอัตราที่ก้าวกระโดดจากค่าเฉลี่ยปกติย้อนหลัง 8 เดือนที่กองทุนมีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นเดือนละ 6,000 รายโดยประมาณ

ทั้งนี้ สมาชิกที่สมัครเพิ่มในเดือนก.ย. มีผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปจำนวน 53,360 ราย อายุ 50-60 ปี จำนวน 13,216 ราย รวมจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้นในเดือนก.ย.ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิตาม พ.ร.บ.การให้สิทธิฯ ทั้งสิ้น 66,576 ราย คิดเป็น 92% ของจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้นทั้งหมด จึงทำให้กองทุนมีสมาชิกในกลุ่มผู้มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป เป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจาก 46% เป็น 53% ของจำนวนสมาชิกล่าสุดทั้งหมด 5.12 แสนราย โดยกองทุนตั้งเป้าสมาชิกในสิ้นปีนี้ที่ 1 ล้านราย

นายสมพร กล่าวด้วยว่า ได้เสนอให้คณะกรรมการ กอช.พิจารณาเพิ่มสัดส่วนการสมทบเงินออมให้กับสมาชิก จากปัจจุบันที่มีเพดานสมทบให้ไม่เกิน 1,200 บาทต่อราย เป็นไม่เกิน 1,500 บาทต่อราย และสมทบในอัตราเดียวกันทุกช่วงอายุ จากเดิมที่ 15-30 ปี รัฐสมทบไม่เกิน 600 บาท, อายุ 30-50 ปี สมทบไม่เกิน 960 บาท และอายุ 50-60 ปี สมทบไม่เกิน 1,200 บาทต่อปี เพื่อจูงใจให้ประชาชนเข้ามาเป็นสมาชิกและออมเงินมากขึ้น โดยคณะกรรมการฯ ได้สั่งให้ไปศึกษาผลกระทบในด้านงบประมาณและนำมาเสนออีกครั้ง

อย่างไรก็ดี ขณะนี้ กอช.อยู่ระหว่างศึกษาการนำเงินสมทบไปลงทุนเพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น เช่น การลงทุนในหุ้นกู้ของเอกชน และตราสารหนี้ในตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในปีหน้า โดยกองทุนตั้งเป้าลงทุนตราสารหนี้ในตลาดหลักทรัพย์ประมาณ 10% ของเงินลงทุน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ