นางสาวรังษิต ภู่ศิริภิญโญ รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย สศก. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการเจรจาการค้าความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership –Trade Negotiating Committee: RCEP–TNC) ครั้งที่ 18 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 – 12 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์
การประชุม RCEP ประกอบด้วยประเทศสมาชิก 16 ประเทศ ได้แก่ ประเทศสมาชิก ASEAN 10 ประเทศ และประเทศคู่เจรจาอาเซียนรวม 6 ประเทศ คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยประเทศสมาชิก RCEP ยังคงหารืออย่างต่อเนื่องในประเด็นการเปิดตลาดสินค้า ซึ่งล่าสุดประเทศสมาชิกส่วนใหญ่ได้ยื่นแลกเปลี่ยนข้อเสนอเปิดตลาดสินค้าเพิ่มเติม (Second Offer) ระหว่างกัน
อย่างไรก็ตาม ประเทศสมาชิกบางประเทศที่ยังไม่ได้ยื่นรายการ Second Offer ได้แก่ บรูไน ดารุสซาลาม อินโดนีเซีย กัมพูชา อินเดีย และญี่ปุ่น คาดว่าจะมีการแลกเปลี่ยนรายการดังกล่าว ก่อนการประชุมระดับรัฐมนตรี RCEP ที่มีกำหนดจะจัดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม 2560 ณ ประเทศเวียดนาม
สำหรับความคืบหน้าในการเจรจาด้านกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า ประเทศสมาชิก RCEP สามารถสรุปท่าทีกฎเฉพาะรายสินค้า (Product Specific Rules: PSRs) ร่วมกันได้ จำนวน 269 รายการ ส่งผลให้รายการสินค้าที่ตกลง PSRs ร่วมกันได้ จำนวนทั้งสิ้น 1,131 รายการ คิดเป็น 21.73% ของรายการสินค้าทั้งหมด ณ ระดับพิกัดศุลกากร 6 หลัก
ทั้งนี้ ความตกลง RCEP นับได้ว่าเป็นความตกลงการค้าเสรีระดับภูมิภาคขนาดใหญ่ และเป็นความตกลงแบบองค์รวม (Comprehensive Agreement) ที่มีมาตรฐานสูง ซึ่งจะช่วยขยายโอกาสในการส่งออกสินค้าของไทย รวมถึงการลดอุปสรรคทางการค้าระหว่างประเทศสมาชิก โดยตั้งเป้าหมายการเจรจาให้เสร็จสิ้นภายในปี 2560 ซึ่งการประชุมครั้งที่ 19 มีกำหนดจะจัดขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคม 2560 ณ กรุงไฮเดอราบัด ประเทศอินเดีย โดย สศก. จะรายงานความคืบหน้าให้ทราบในโอกาสต่อไป