นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง เปิดเผยถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการก่อสร้างโครงการหอชมเมืองกรุงเทพมหานคร บนที่ดินราชพัสดุ แปลงหมายเลข กท.3257 เขตคลองสาน กรุงเทพมหานครว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดินตาบอด ซึ่งใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้มาก แต่ทางมูลนิธิหอชมเมืองกรุงเทพมหานครระบุว่าพื้นที่ดังกล่าวมีความน่าสนใจ
โครงการดังกล่าวเข้าเกณฑ์การร่วมทุนกับภาคเอกชนในรูปแบบ PPP เพราะกรมธนารักษ์ซึ่งถือเป็นหน่วยงานของภาครัฐมีการนำที่ราชพัสดุออกมาให้เอกชนเช่า เป็นระยะเวลา 30 ปี โดยการเช่าที่ดังกล่าวเป็นไปตามระเบียบของกรมธนารักษ์ทุกประการ ไม่มีการยืดหยุ่นแต่อย่างใด พร้อมทั้งมีการกำหนดเป็นเงื่อนไขในการเช่าที่ดินอย่างชัดเจนว่ารายได้ที่เกิดจากการดำเนินโครงการหอชมเมืองกรุงเทพมหานคร หลังจากหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แล้ว ห้ามไม่ให้นำเงินดังกล่าวไปจัดสรรแบ่งกันเองระหว่างเอกชนที่ร่วมจัดตั้งมูลนิธิหอชมเมืองกรุงเทพมหานคร โดยจะต้องเอาเงินดังกล่าวมาปรับปรุง พัฒนา และดูแลโครงการต่อไป
ทั้งนี้ รัฐบาลเองพิจารณาแล้วเห็นว่าวัตถุประสงค์ของการจัดทำโครงการดังกล่าวเพื่อเป็นต้นแบบน้อมนำศาสตร์พระราชาที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้พระราชทานไว้มาดำเนินการ โดยจัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของไทย และเป็นสัญลักษณ์สำคัญของกรุงเทพมหานคร
“เราพิจารณาแล้วว่าโครงการนี้เป็นเรื่องที่ดิน เพราะโครงการเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และหากมีการเปิดประมูลเพื่อหาเอกชนมาพัฒนาพื้นที่ ไม่รู้ว่าจะมีใครสนใจหรือไม่ เนื่องจากมูลค่าโครงการที่ค่อนข้างสูง รวมทั้งไม่รู้ว่าทำแล้วจะคุ้มทุนหรือไม่ โดยแผนการก่อสร้างก็จะทำเป็นหอสูง ชั้นบนสุดจะเป็นโถงเพื่อจัดแสดงเป็นนิทรรศการเกี่ยวกับศาสตร์ของพระราชา และพื้นที่ให้ความรู้ โดยจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมแนวคิดของพระราชา โดยทราบว่าจะมีการเก็บค่าเข้าชมด้วย" นายอภิศักดิ์ กล่าว