(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.16 ทรงตัวจากวานนี้ รับข่าวเฟดอาจชะลอขึ้นดบ.-วิตกสถานการณ์เกาหลีเหนือ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 6, 2017 11:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 33.16 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัว จากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.16 บาท/ดอลลาร์

"เมื่อคืนดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดออกมาแสดงความเห็น ทำให้ตลาด ไม่เชื่อมั่นว่าเฟดจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อไปหรือเปล่าเพราะเงินเฟ้อต่ำ ประกอบกับปัญหาความขัดแย้งที่บริเวณคาบสมุทรเกาหลีที่มี การสร้างข่าวยั่วยุกันไปมา"นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดกรอบการเคลื่อนไหววันนี้ที่ 33.10-33.20 บาท/ดอลลาร์ โดยมองว่าน่าจะยังทรงๆ แม้ช่วงนี้มี เงินไหลเข้ามาในตลาดพันธบัตรค่อนข้างมาก แต่บรรยากาศไม่ค่อยเป็นใจเพราะอาจจะมีความเสี่ยงในภูมิภาคนี้

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 33.1742 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (5 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.96191% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (5 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.10784%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.73 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 109.36 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1903 ดอลลาร์/ยูโร จาหเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.1883 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.1730 บาท/
ดอลลาร์
  • ที่ประชุม คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประเมินความเป็นไปได้ที่การส่งออกปีนี้ทั้งปีอาจขยายตัว
สูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 3.5-4.5% เนื่องจากส่งออก 7 เดือนที่ผ่านมาเติบโตถึง 8.2% ที่ประชุมจึงประเมินเศรษฐกิจไทยในช่วง
ที่เหลือของปีนี้ยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง
  • นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.)
ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.), สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยภาย
หลังการประชุมว่า สัปดาห์หน้าเตรียมสรุปการเดินสายให้ความรู้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทำประกันความเสี่ยง (เฮดจิ้ง) อัตราแลก
เปลี่ยน ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เนื่องจากขณะนี้ทิศทางค่าเงินบาทมีความผันผวนอาจส่งผลกระทบต่อต้นทุน
  • นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า การขยายวงเงินสำหรับการออกไปลงทุนในตลาดหลัก
ทรัพย์ต่างประเทศเพิ่มจาก 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มเป็น 1 แสนล้านดอลลาร์ ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไม่ได้
มีผลให้เงินบาทอ่อนค่าลงในระยะสั้น เพราะขณะนี้ยังไม่มีเงินไหลออกไปลงทุนเพิ่มขึ้นจริง ซึ่งปัจจุบันมีการใช้วงเงินลงทุนเพียง 3.2
หมื่นล้านดอลลาร์เท่านั้น
  • ธนาคารทหารไทย(TMB) เปิดเผยว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ธนาคารจะพยายามผลักดันสินเชื่อเอสเอ็มอีให้ขยายตัว
เพิ่มขึ้น จากครึ่งปีแรกยอดคงค้างสินเชื่ออยู่ในระดับทรงตัว หรือปัจจุบันมียอดคงค้างประมาณ 90,000 ล้านบาท และคาดว่าสิ้นปีน่าจะ
แตะระดับ 100,000 ล้านบาท เนื่องจากเริ่มเห็นถึงสัญญาณฟื้นตัวในบางกลุ่มธุรกิจ อาทิ ก่อสร้าง ค้าปลีก
  • พาณิชย์จับตาใกล้ชิด 'ทรัมป์' ขู่ตัดสัมพันธ์ทางการค้ากับทุกประเทศที่เป็นคู่ค้ากับเกาหลีเหนือ ตอบโต้ที่โสมแดงทดลอง
อาวุธนิวเคลียร์ไม่เลิก โดยไทยเป็นคู่ค้าอันดับ 4 กับโสมแดง แต่มูลค่าส่งออกน้อยลงเรื่อยๆ ปีที่แล้วแค่ 47 ล้านดอลลาร์ ด้านเอกชน
หวั่นกระทบธุรกิจ เล็งหาตลาดใหม่กันไว้ก่อน
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 ก.ย.)
จากกระแสความวิตกสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี ภายหลังจากเกาหลีเหนือได้ทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 เมื่อวัน
อาทิตย์ที่ผ่านมา ขณะที่ล่าสุดมีรายงานว่า เกาหลีเหนือได้ทำการเคลื่อนย้ายระบบขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ไปทางชายฝั่งตะวันตก
ของประเทศ ซึ่งคาดว่าเกาหลีเหนืออาจเตรียมทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยไกลดังกล่าวในเร็วๆนี้
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 ปีเมื่อคืนนี้ (5 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อ
ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย จากความกังวลเกี่ยวกับรายงานข่าวที่ว่า เกาหลีเหนืออาจยิงขีปนาวุธครั้งใหม่ หลังจากที่ได้ทดสอบ
ระเบิดนิวเคลียร์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
  • นางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ออกมาส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะชะลอการปรับ
ขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังเงินเฟ้อสหรัฐกำลังปรับตัวลง และอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายของเฟดที่ 2%
  • นักวิเคราะห์จับตาการกล่าวสุนทรพจน์ในวันนี้ของนายนีล แคชแครี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขามินเน
อาโพลิส, นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟด สาขาดัลลัส และนางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด เพื่อหาสัญญาณการ
ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
  • คืนนี้ติดตามการเปิดเผยรายงาน Beige Book ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งเป็นรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ
ของเฟด 12 เขตในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาที่เฟดจะนำมาใช้เป็นข้อมูลประกอบในการตัดสินใจนโยบายการเงินในการประชุมวันที่
19-20 ก.ย. ซึ่งคาดเฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้
  • นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดุลการค้าเดือนก.ค., ดัชนีผู้

จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนส.ค. จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนส.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ

(ISM), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ