ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 98.84 เยน จากระดับของวันศุกร์ที่ 99.36 เยน แต่ขยับขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9109 ฟรังค์ จากระดับ 0.9103 ฟรังค์
ยูโรอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 1.3496 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3521 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.6048 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6019 ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.9445 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9405 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงหลังจากเฟดประกาศว่าจะยังคงเดินหน้าโครงการซื้อสินทรัพย์ในวงเงินปัจจุบันที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ
ก่อนหน้านี้ มีการคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เฟดอาจจะลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ หรือ QE ลงประมาณ 1-1.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน นอกจากนี้ เฟดยืนยันว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น จนกว่าอัตราว่างงานจะแตะ 6.5% และอัตราเงินเฟ้อไม่เคลื่อนไหวสูงกว่า 2.5%
สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงหลังจากพรรคคริสเตียน เดโมเครติค ยูเนียน (ซีดียู) ของนางแมร์เคล และพรรคคริสเตียน โซเชียล ยูเนียน (ซีเอสยู) ซึ่งเป็นพรรคแนวร่วมที่มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับพรรค CDU ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปของเยอรมนี ซึ่งนับเป็นชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด ส่งผลให้นางมาร์เคิลยังคงรั้งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของเยอรมนีต่ออีกสมัย
ตลาดวิตกกังวลว่านางแมร์เคลจะเดินหน้าใช้มาตรการรัดเข็มขัด ซึ่งมาตรการดังกล่าวสร้างความไม่พอใจอย่างมากแก่ประชาชนในกลุ่มประเทศที่ประสบปัญหาหนี้สินท่วมตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศทางตอนใต้ของยุโรป ซึ่งเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะชะงักงันอยู่แล้ว ต้องซบเซาหนักขึ้นไปอีกจากมาตรการลดรายจ่ายของภาครัฐ