ขณะที่การเฉลิมฉลองชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้กรีซมีรัฐบาลที่นำโดยพรรคฝ่ายซ้ายเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ทศวรรษ ได้ผ่านพ้นไปนั้น บรรดานักวิเคราะห์ทางการเมืองในกรีซได้ออกมาเตือนเกี่ยวกับหนทางที่เต็มไปด้วยขวากหนามสำหรับนายกรัฐมนตรีใหม่และพันธมิตรร่วมรัฐบาลใหม่ของกรีซ
นักวิเคราะห์มองว่า การสร้างเสถียรภาพในการเป็นพันธมิตรกับพรรคอินดิเพนเดนท์ กรีกส์ (ANEL) ซึ่งมีนายปานอส แคมเมนอสเป็นหัวหน้าพรรคและถือเป็นพรรคฝ่ายขวาที่คัดค้านมาตรการรัดเข็มขัดนั้น จะเป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับนายกรัฐมนตรีคนใหม่วัย 40 ปีของกรีซ
ส่วนความท้าทายที่สำคัญในด้านการเงินและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จะอยู่ที่การดำเนินโครงการ “ช่วยเหลือระดับประเทศ" ด้านเศรษฐกิจก่อนการเลือกตั้งและในการรื้อฟื้นการเจรจาว่าด้วยความร่วมมือหลังมาตรการช่วยเหลือ ตลอดจนแนวทางในการจัดการกับภาระหนี้สินของประเทศ
การที่นายซิปราสเลือกที่จะบริหารประเทศร่วมกับพรรค ANEL แทนการร่วมมือกับพรรคริเวอร์ (Potami) ซึ่งเป็นพรรคกลาง-ขวาที่โปรยุโรปนั้น ได้สร้างความงุนงงแก่นักวิเคราะห์ในกรีซจำนวนมาก
นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า การที่นายซิปราสเลือกจัดตั้งรัฐบาลใหม่ในรูปแบบดังกล่าวได้สร้างความประหลาดใจทั้งในและต่างประเทศ โดยระบุว่าแทนที่นายซิปราสจะเลือกทำงานกับนายสตาฟรอส ธีโอดอราคิส ผู้นำพรรคริเวอร์ แต่นายกฯคนใหม่ของกรีซกลับเลือกผู้นำทางการเมืองที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองตรงกันข้ามกับเขาอย่างสิ้นเชิง
นักวิเคราะห์กล่าวเพิ่มเติมว่า นายซิปราสและนายแคมเมนอส มีแนวโน้มจะเป็นผู้ร่วมงานทางการเมืองในแบบที่แปลกที่สุด
การที่พรรคไซรีซาได้เสียงสนับสนุน 36.3% หรือ 149 ที่นั่งในสภาที่สมาชิกทั้งหมด 300 คน ซึ่งจะมีการประชุมกันในวันที่ 5 ก.พ.นั้น นายซิปราสจึงต้องการตัวช่วย และด้วยการร่วมรัฐบาลกับพรรค ANEL ทั้ง 2 พรรคจะครองที่นั่งจำนวน 162 ที่นั่ง ซึ่งถือเป็นเสียงข้างมากที่จะสามารถอนุมัติร่างกฎหมายต่างๆเพื่อคว่ำมาตรการรัดเข็มขัดได้ หลังจากที่เริ่มใช้มาตรการดังกล่าวมานับตั้งแต่เริ่มเกิดวิกฤตหนี้เมื่อ 5 ปีก่อนเพื่อเลี่ยงภาวะล้มละลาย
นายซิปราสได้ปฏิญาณตนเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของกรีซแล้วเมื่อวานนี้ พร้อมกับประกาศว่าจะเปิดฉากการเจรจาครั้งใหม่เกี่ยวกับเงื่อนไขการชำระหนี้ของกรีซต่อกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) โดยหวังให้มีการลดหนี้ แต่ยืนยันว่ากรีซจะไม่ออกจากยูโรโซน
“การหารือกับทรอยกาจะเป็นบททดสอบสำคัญของรัฐบาลใหม่ ไซรีซาจะมีภารกิจที่ยากลำบากในการโน้มน้าวบรรดาเจ้าหนี้ของประเทศให้จัดสรรความช่วยเหลือทางการเงินอย่างต่อเนื่องแก่กรีซ และยอมรับข้อเสนอด้านนโยบาย ซึ่งหลายข้อมีความขัดแย้งกับแผนการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจในปัจจุบัน" นายดิมิทริส คอนโนเยียนนิส แสดงความคิดเห็นในบทความทางหนังสือพิมพ์ "Kathimerini" (Daily)
“การประนีประนอมดูเหมือนจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่ต้องได้รับความยินยอมจากทั้งสองฝ่าย โดยทางออกนี้ยังต้องจับตาดูต่อไปว่าจะมีความเป็นไปได้หรือไม่"
ในโลกทางการเงินนั้น สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) ได้ออกมาเตือนเมื่อวานนี้เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการปรับลดอันดับความน่าเชือถือของกรีซลงในเร็วๆนี้ หากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเผชิญหน้ากับบรรดาเจ้าหนี้ยืดเยื้อออกไป
บทวิเคราะห์โดย มาเรีย สปิลิโอเปาโล สำนักข่าวซินหัวรายงาน