China Focus: นายกฯจีนเน้นวิสัยทัศน์ใช้การปฏิรูปโครงสร้างผลักดันศก.จีนสู่ดุลยภาพใหม่

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday March 5, 2015 16:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีน ได้เน้นย้ำในวันนี้ถึงวิสัยทัศน์ของความเป็นผู้นำใหม่สำหรับเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งได้รับแรงผลักดันมากขึ้นจากการบริโภคและภาคบริการ แทนที่กลไกดั้งเดิมอย่างภาคการผลิตและการลงทุน

นายหลี่กล่าวในการเปิดประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ว่าปี 2558เป็นปีที่มีความสำคุญสำหรับการสร้างความมั่นใจเกี่ยวกับการขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพและการปรับเปลี่ยนในเชิงโครงสร้าง

“การพัฒนาทางเศรษฐกิจของจีนได้เข้าสู่ภาวะดุลยภาพใหม่ ปัญหาเชิงระบบ เชิงสถาบันและเชิงโครงสร้างได้กลายเป็นความท้าทายในการส่งเสริมการพัฒนา"

เศรษฐกิจจีนขยายตัว 7.4% ในปี 2557 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 24 ปี และรัฐบาลจีนได้ปรับลดเป้าหมายการขยายตัวในปีนี้ลงอีกมาอยู่ที่ราว 7%

นายหลี่กล่าวว่า ในปีนี้ รัฐบาลจะปรับใช้และนำร่อง “ดุลยภาพใหม่" ในการพัฒนาทางเศรษฐกิจของจีนอย่างจริงจัง , สร้างความมั่นใจว่าเศรษฐกิจจะปรับตัวภายในช่วงที่เหมาะสม, มุ่งเน้นในการเสริมความแข็งแกร่งด้านคุณภาพและผลดีของการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และให้ความสำคัญมากขึ้นในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการขยายตัวและในการปรับเปลี่ยนเชิงโครงสร้าง

ทางการจีนได้ให้คำมั่นมาเป็นเวลาหลายปีในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งได้รับการขับเคลื่อนมาเป็นเวลานานจากการส่งออกและการลงทุนขนานใหญ่ภายใต้การชี้นำของรัฐบาล มาสู่เศรษฐกิจที่มีการสนองตอบมากขึ้นต่อแรงผลักดันของผู้บริโภค

รัฐบาลเปิดเผยว่า การบริโภคคิดเป็นสัดส่วน 51.2% ของการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2557 เมื่อเทียบกับสัดส่วนเกือบ 70% ในสหรัฐ

แรงขับเคลื่อนดังกล่าวมีความเร่วงด่วนอย่างมากนับตั้งแต่ปีที่แล้ว หลังจากที่เศรษฐกิจจีนที่มีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลก ได้เผชิญกับแรงกดดันช่วงขาลงมากขึ้น โดยก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้ตั้งเป้าการขยายตัวทางเศรษฐกิจไว้ที่ 7.5% ในปี 2557 แต่การเติบโตที่แท้จริงอยู่ที่ 7.4%

“ขณะที่มีแรงกดดันช่วงขาลงต่อเศรษฐกิจจีนและมีปัญหาที่หยั่งรากลึกในด้านการพัฒนา ปัญหาต่างๆที่เราจะเผชิญในช่วงปีนี้อาจจะมีความยากลำบากมากกว่าในปีที่แล้ว" เขากล่าว ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังหลายรายการในช่วงต้นปีนี้ก็ทำให้สถานการณ์อยู่ในภาวะย่ำแย่

แม้ว่านักวิเคราะห์หลายรายระบุว่าตัวเลขปรับตัวอ่อนแอในเดือนม.ค. อันเนื่องมาจากผลของช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งตรงกับวันที่ 19 ก.พ.ในปีนี้ แต่ข้อมูลเศรษฐกิจก็ยังคงสร้างความกังวลอย่างมาก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ