สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2558 ขยายตัว 7% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นอัตราเดียวกับช่วงไตรมาสแรก
จูเลียน อีวานส์-พริทชาร์ด นักเศรษฐศาสตร์จากแคปิตอล อีโคโนมิกส์ เปิดเผยว่า จีดีพีจีนปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 6.8% เทียบรายปี
ส่วนปัจจัยที่ส่งผลให้จีดีพีปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งนั้น นักเศรษฐศาสตร์รายนี้กล่าวว่า "ปัจจัยแรกที่ถูกมองข้ามเป็นส่วนใหญ่ ได้แก่ผลกระทบที่เกิดขึ้นปริมาณการซื้อขายของหุ้นกลุ่มโบกเกอร์ที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในตลาดหุ้นจีน สำหรับปัจจัยที่สอง ได้แก่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภาพรวม"
เขากล่าวว่า "เนื่องจากผลกระทบจากการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์และอุตสาหกรรมหนักเริ่มอ่อนแรงลง เราจึงคาดว่า เศรษฐกิจจีนน่าจะค่อยๆชะลอตัวลงในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้านี้"
HSBC เปิดเผยว่า ทั้งจีดีพีและข้อมูลกิจกรรมเศรษฐกิจเดือนมิ.ย.ต่างเหนือการคาดการณ์ของตลาด โดยได้รับแรงหนุนจากภาคบริการ การลงทุนทางโครงสร้างพื้นฐาน และยอดขายอสังหาริมทรัพย์
สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) รายงานว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนในเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 6.8% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับอัตรา 6.1% ในเดือนพ.ค. ขณะที่การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ขยายตัว 11.4% เทียบรายปี ส่วนยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 10.6% เมื่อเทียบรายปี
HSBC ระบุว่า ปัจจัยที่มีส่วนขับเคลื่อนมากที่สุดได้แก่ภาคบริการ โดยจีดีพีภาคบริการขยายตัว 8.4% เทียบรายปีในไตรมาสสอง เพิ่มขึ้นจากระดับ 7.9% ในไตรมาสแรก
HSBC เสริมว่า "ข้อมูลภาคบริการทั้งหมดยังไม่ได้มีการเปิดเผย แต่ภาคการเงินน่าจะยังคงมีการขยายตัวสูงสุด ตามมาด้วยภาคอสังหาริมทรัพย์"
อย่างไรก็ตาม HSBC ชี้ว่า "การปรับตัวเพิ่มขึ้นของยอดการลงทุนและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมนั้น ยังคงไม่มีความแน่นอนและไม่ได้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ เพื่อยกระดับและสร้างเสถียรภาพให้กับการฟื้นตัว จึงจำเป็นต้องมีมาตรการผ่อนคลายทางนโยบายต่อไปในช่วงครั้งปีหลังของปี 2558"
HSBC ยังกล่าวด้วยว่า "เราคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% และปรับลดสัดส่วนกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลงอีก 2% ในครึ่งปีหลังของปี 2558 โดยเราคาดว่าจีดีพีจีนตลอดทั้งปี 2558 จะขยายตัว 7.1%"
ด้านนายแอนดริว โคลคูฮาวน์ จากฟิทช์ เรทติ้งส์ กล่าวว่า "ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับการคาดการณ์ของฟิทช์ และเป็นไปตามการคาดการณ์ของฟิทช์ที่คาดว่าจะขยายตัว 6.8% สำหรับปีนี้"
ฟิทช์ เรทติ้งส์ คาดการณ์ว่า จีดีพีช่วงครึ่งปีหลังจะขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากที่ได้มีการผ่อนคลายทางการเงินและนโยบายสินเชื่อไม่นานมานี้
นายโคลคูฮาวน์ กล่าวว่า "การฟื้นตัวของยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.ส่งสัญญาณว่า ความเสี่ยงช่วงขาลงเริ่มลดน้อยลง แม้ว่าตลาดหุ้นมีความผันผวนในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ในระยะยาวแล้วการชะลอตัวเชิงโครงสร้างยังเป็นเรื่องที่ต้องจับตา เนื่องจากเศรษฐกิจกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลง" สำนักข่าวซินหัวรายงาน