Analysis: นักวิเคราะห์กังวลนโยบายพลังงาน "ทรัมป์" ไม่ช่วยหนุนสหรัฐเติบโตอย่างยั่งยืน

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 23, 2017 11:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เป็นเวลาไม่นานหลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐ ทางทำเนียบขาวก็ได้เปิดเผยแผนการเกี่ยวกับนโยบายพลังงานภายใต้คณะบริหารชุดใหม่ลงบนเว็บไซต์ ซึ่งได้จุดชนวนความวิตกกังวล ระคนกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลกว่า นายทรัมป์จะนำพาประเทศไปสู่ทิศทางใด

ในรายละเอียดด้านนโยบายพลังงานของทรัมป์ตามที่ปรากฏในเว็บไซต์ของทำเนียบขาวนั้น ได้มีการลบประเด็นต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ และกลับไปมุ่งเน้นการบริโภคน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเช่นเดิม

ทั้งนี้ ในช่วงที่นายทรัมป์หาเสียงเลือกตั้งนั้น เขาได้กล่าวตำหนิประเด็นการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศว่าเป็น "เรื่องที่หลอกลวง" พร้อมข่มขู่ว่าเขาจะนำสหรัฐถอนตัวออกจากความตกลงปารีส ซึ่งเป็นกรอบอนุสัญญาขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ

ด้วยเหตุนี้ บรรดาผู้สังเกตการณ์ทั่วโลกจึงจับตามองด้วยความไม่สบายใจว่า ประเทศมหาอำนาจรายนี้จะหันหลังให้กับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศหรือไม่

นายร็อบ เบลีย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยพลังงาน สิ่งแวดล้อม และทรัพยากรแห่งสถาบันชัทแธมเฮาส์ ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยด้านกิจการระหว่างประเทศชั้นนำในลอนดอน กล่าวเตือนว่า หากสหรัฐหันหลังให้กับปัญหาดังกล่าว "ทุกประเทศจะต้องสูญเสีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศสหรัฐฯเอง"

เขาอธิบายว่า "ในขณะที่สหรัฐฯมีแนวโน้มที่จะใช้นโยบายกีดกันการค้ามากขึ้นตามที่มีการคาดหมายในวงกว้างนั้น ประเทศอื่นๆก็อาจจะตั้งกำแพงภาษีสำหรับสินค้านำเข้าจากสหรัฐ เพื่อตอบโต้บรรดาผู้ส่งออกของสหรัฐที่ลดต้นทุนการแก้ปัญหามลพิษ

นายเบลีย์ ระบุว่า ท้ายที่สุดสหรัฐจะไม่มีทางเจริญมั่งคั่งด้วยเศรษฐกิจที่ยังคงผูกติดกับเชื้อเพลิงฟอสซิล ในขณะที่ทั่วโลกได้ตระหนักถึงปัญหาการก่อมลพิษและกำลังหันไปใช้พลังงานทางเลือกกันมากขึ้นเรื่อยๆ

ขณะที่หนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดียนของอังกฤษ ได้รายงานโดยอ้างคำพูดของนายนิโคลัส สเติร์น ประธานสถาบันวิจัยการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมแกรนแธม ซึ่งเขาได้แนะนำประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐว่า "หากคุณต้องการที่จะทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง การสร้างระบบสาธารณูปโภคที่ทันสมัย สะอาด และฉลาด ดูจะเข้าท่ากว่ามากทั้งในด้านของผลประโยชน์ระดับชาติและเชิงพาณิชย์

"ในระยะยาวนั้น จะไม่มีประเทศใดที่สามารถเจริญเติบโตได้ด้วยการปล่อยคาร์บอนในปริมาณสูง เพราะการทำลายสิ่งแวดล้อมย่อมส่งผลกระทบและทำให้เศรษฐกิจถดถอยในบั้นปลาย" เขากล่าว

ขณะที่ไมเคิล บรูน ผู้อำนวยการเซียร์ราคลับในสหรัฐฯ ได้ออกมาคัดค้านนโยบายพลังงานของทรัมป์ โดยระบุว่า "นโยบายก่อมลพิษเหล่านี้จะทำให้อากาศและน้ำปนเปื้อนสารพิษมากขึ้น นอกจากนี้ ยังทำให้สภาพภูมิอากาศแปรปรวนและทำให้การเมืองระหว่างประเทศไร้ซึ่งเสถียรภาพ เด็กๆของเราก็จะป่วยกันมากขึ้น" พร้อมกล่าวเสริมว่า ความมืดมนและความน่าละอายได้เริ่มต้นขึ้นแล้วในยุคของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งเป็นการตบหน้าชาวอเมริกันทุกคนที่คิดว่าทรัมป์จะทำเพื่อผลประโยชน์ของประเทศ

บทวิเคราะห์โดยสำนักข่าวซินหัว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ