"การแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (Brexit) และนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คือ ปัจจัยกำหนดชะตาเศรษฐกิจยุโรป" ข้อความข้างต้นนี้คือ สาส์นจากคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ที่กำลังจับตาดูภาพรวมของเศรษฐกิจในปีนี้อย่างใกล้ชิด
คณะกรรมาธิการยุโรปคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของยุโรปจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) โซนยุโรปจะปรับตัวขึ้น 1.6% ในปีนี้ และ 1.8% ในปี 2561 ขณะที่ตัวเลข GDP ของสหภาพยุโรป (EU) ในภาพรวมจะขยับขึ้นที่ 1.8% ในปีนี้และปีถัดไป
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2559 2560 และ 2561 ที่กล่าวมาข้างต้นนั้น เป็นช่วงเดียวกับที่อังกฤษได้ตัดสินใจเลือกถอนตัวจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป ในขณะนี้ก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า อังกฤษจะเลือกเล่น "บทโหด" ในการออกจากสหภาพยุโรปหรือไม่ ซึ่งนั่นอาจทำให้อังกฤษต้องแยกตัวออกจากตลาดร่วมและสหภาพศุลกากร ขณะที่เรื่องสถานะการต่อรองของยุโรปก็ยังคงเป็นที่น่ากังขาอยู่ไม่น้อย
นอกจากนี้ การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งไปแบบหักปากกาเซียน รวมถึงการเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นในฝรั่งเศสและเยอรมนี ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะสร้างความผันผวนอย่างหนักให้กับแนวโน้มเศรษฐกิจของยุโรปด้วยเช่นกัน
นายวัลดิส โดมโบรฟสกิส รองประธาน EC ซึ่งรับผิดชอบงานด้านยูโรและโซเชียล ไดอะล็อก อีกทั้งยังเป็นผู้กำกับดูแลด้านการรักษาเสถียรภาพการเงิน บริการทางการเงิน และสหภาพตลาดทุนของยุโรป เปิดเผยว่า "ในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนนี้ การปกป้องเสถียรภาพของเศรษฐกิจของยุโรปถือเป็นสิ่งสำคัญ ขณะเดียวกันก็ต้องสามารถปรับให้เข้ากับสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลงไปได้ โดยสิ่งต่างๆเหล่านี้ต้องอาศัยการปฏิรูปโครงสร้าง นอกจากนี้ เราควรมุ่งเน้นไปที่การเติบโตอย่างมีส่วนร่วม (growth) เพื่อให้ทุกฝ่ายได้เข้ามามีบทบาทในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจครั้งนี้"
นอกจากนี้ นายโดมโบรฟสกิสยังได้กล่าวอีกด้วยว่า ประเทศใดก็ตามที่มีอัตราการขาดดุลและหนี้อยู่ในระดับสูง ก็ควรเร่งหามาตรการปรับลดตัวเลขเหล่านี้ลง เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ สื่อคาดการณ์ว่า นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ จะประกาศใช้มาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอนในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ เพื่อให้อังกฤษเริ่มต้นกระบวนการเจรจาแยกตัวเป็นเวลา 2 ปี ซึ่งนักวิเคราะห์จากกรุงบรัสเซลส์ กล่าวว่า ใครก็ตามที่คิดว่าเศรษฐกิจโลกจะต้องเผชิญกับหายนะหากอังกฤษเลือกออกจากสหภาพยุโรปเมื่อปีที่ผ่านมานั้น... "คุณคิดผิดแล้ว" สำนักข่าวซินหัวรายงาน