Analysis: นักวิเคราะห์ชี้ "ทรัมป์" อาจสร้างความร้าวฉานกับชาติมุสลิม หากรับรอง "เยรูซาเลม" เป็นเมืองหลวงอิสราเอล

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 6, 2017 10:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐอาจจุดชนวนความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับชาติมุสลิมขึ้นระลอกใหม่ หลังมีกระแสข่าวว่า เขาเตรียมที่จะประกาศรับรองสถานะของกรุงเยรูซาเลมให้เป็นเมืองหลวงของอิสราเอลในสัปดาห์นี้ ซึ่งสร้างความไม่พอใจแก่กลุ่มประเทศอาหรับเป็นอย่างมาก เนื่องจากเยรูซาเลมเป็นที่ตั้งของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของทั้งศาสนาคริสต์ อิสลาม และยูดาห์ อีกทั้งยังเป็นดินแดนที่ชาวปาเลสไตน์ตั้งรกรากมาช้านาน

ทั้งนี้ อิสราเอลได้ครอบครองดินแดนฝั่งตะวันตกของกรุงเยรูซาเลมนับตั้งแต่ก่อตั้งประเทศขึ้นในปี 1948 และหลังจากที่อิสราเอลชนะ "สงคราม 6 วัน" เหนือชาติอาหรับในปี 1967 อิสราเอลก็ได้เข้ายึดครองดินแดนฝั่งตะวันออกของเยรูซาเลมจากประเทศจอร์แดน พร้อมกับประกาศรวมดินแดนทั้งสองฝั่งและสถาปนาเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ประชาคมโลกยังไม่เคยยอมรับการประกาศอ้างเพียงฝ่ายเดียวของอิสราเอลในครั้งนั้น ซึ่งรวมถึงพันธมิตรที่ใกล้ชิดของอิสราเอลอย่างสหรัฐด้วย

แต่ถึงกระนั้น ปธน.ทรัมป์ก็อาจสวนกระแสนานาชาติด้วยการพิจารณารับรองกรุงเยรูซาเลมในฐานะเมืองหลวงของอิสราเอล เพื่อลดแรงกดดันจากการที่เขายังไม่สามารถทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งว่า เขาจะย้ายสถานทูตสหรัฐประจำอิสราเอลในกรุงเทลอาวีฟไปยังกรุงเยรูซาเลมแทน

อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่า ปธน.ทรัมป์จะประกาศรับรองสถานะกรุงเยรูซาเลมให้เป็นเมืองหลวงของอิสราเอลจริงหรือไม่ และหากทำเช่นนั้น เขาจะรับรองดินแดนทั้งสองฝั่งของเยรูซาเลม หรือรับรองเพียงดินแดนฝั่งตะวันตกเท่านั้น

ศาสตราจารย์ เอฟเรม อินบาร์ ผู้อำนวยการสถาบันเยรูซาเลมว่าด้วยยุทธศาสตร์ศึกษา ได้ให้ทัศนะกับสำนักข่าวซินหัวว่า "ปธน.ทรัมป์เป็นมิตรกับอิสราเอล และเขาก็เชื่อว่าการรับรองสถานะของเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล รวมถึงประกาศยอมรับความเชื่อมโยงทางประวัติศาสตร์ระหว่างชาวยิวกับนครศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้นั้น ถือเป็นสิ่งถูกต้องที่ทรัมป์ควรจะทำ"

แต่กระนั้นศาสตราจาย์ อินบาร์ ก็เชื่อว่า ทรัมป์ยังมีความคลุมเครือเกี่ยวกับดินแดนส่วนที่สหรัฐจะให้การยอมรับ

ศาสตราจารย์อินบาร์กล่าวเสริมว่า "ไม่มีชาติใดที่ออกมาโต้แย้งอย่างจริงจังเกี่ยวกับอำนาจอธิปไตยของอิสราเอลเหนือดินแดนเยรูซาเลมตะวันตก และแม้ว่าจะมีการยอมรับโดยพฤตินัยว่า ดินแดนส่วนนั้นเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล แต่ก็ยังไม่มีการประกาศรับรองจากประชาคมนานาชาติอย่างเป็นทางการ"

ก่อนหน้านี้ ทั้งสหรัฐและอิสราเอลต่างก็ยืนกรานมาโดยตลอดว่า สถานะของกรุงเยรูซาเลมจะถูกกำหนดผ่านทางกระบวนการเจรจาระดับทวิภาคีระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์เท่านั้น

ด้านสื่อสหรัฐรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐว่า นโยบายใหม่ของสหรัฐที่มีต่อกรุงเยรูซาเลมนั้น อาจส่งผลกระทบต่อภารกิจทางการทูตของสหรัฐทั่วโลกอย่างร้ายแรง

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นายมาห์มูด อับบาส ประธานาธิบดีรัฐปาเลสไตน์ได้ออกมากล่าวเตือนว่า ความเคลื่อนไหวของทรัมป์ครั้งนี้อาจบ่อนทำลายความพยายามของสหรัฐในการผลักดันข้อตกลงสันติภาพระหว่างปาเลสไตน์กับอิสราเอล นอกจากนี้ นายอับบาสยังเตือนว่า ความเคลื่อนไหวของสหรัฐอาจส่งผลให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงตามมา

บทวิเคราะห์โดย เคเรน เซตตัน

สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ