นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายได้มีข้อตกลง เพื่อมอบโควต้าให้กับสถาบันการเงินในสิงคโปร์ภายใต้โครงการนำร่องนักลงทุนสถาบันต่างชาติที่มีคุณสมบัติเหมาะสม (RQFII) สำหรับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์จีน วงเงินทั้งสิ้น 5 หมื่นล้านหยวน (8.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
สิงคโปร์จะเป็นหนึ่งในบรรดาประเทศที่นักลงทุนสถาบันจีนสามารถทำการซื้อหลักทรัพย์นอกประเทศโดยใช้เงินหยวนได้ ภายใต้โครงการนักลงทุนสถาบันจีนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับการซื้อขายเงินหยวน
นาย ราวี เมนอน ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของ MAS กล่าวว่า "ความสัมพันธ์ทางการเงินระหว่างทั้งสองประเทศนั้นมีรากฐานที่มั่นคงเป็นอย่างมาก ในขณะนี้ สิงคโปร์มีความพร้อม เพื่อส่งเสริมการใช้เงินหยวนในเชิงการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศในอีกไม่ปีข้างหน้า"
นอกจากสิงคโปร์แล้ว เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลอังกฤษได้ประกาศแผนอนุมัติการซื้อขายสกุลเงินหยวนและเงินปอนด์โดยตรง หลังจากที่ได้มีการจัดทำข้อตกลงในลักษณะเดียวกัน เพื่อยินยอมให้มีการซื้อขายเงินหยวนโดยตรงกับเงินดอลลาร์สหรัฐ เงินเยน และดอลลาร์ออสเตรเลีย โดยอังกฤษมีโควต้าในโครงการ RQFII เป็นวงเงินทั้งสิ้น 8 หมื่นล้านหยวน
สิงคโปร์ได้เริ่มบริการหักบัญชีในเดือนพ.ค. โดยทางเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ และธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ได้เทขายพันธบัตรเงินหยวนที่ออกจำหน่ายนอกประเทศจีน (Dim Sum bonds) เป็นครั้งแรก
ทั้งนี้ จะมีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนซื้อขายสกุลเงินโดยตรงในภายหลัง โดยในขณะนี้กำลังมีการศึกษามาตรการใหม่ๆเพื่อยินยอมให้มีการซื้อขายเงินหยวนระหว่างนิคมอุตสาหกรรมซูโจว เช่นเดียวกับ Tianjin Eco-city ซึ่งล้วนเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างจีนกับสิงคโปร์