ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) เปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายประจำเดือนก.พ.ในวันนี้ โดย RBA คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจออสเตรเลียจะได้รับแรงหนุนจากการส่งออกทรัพยากรที่มีแนวโน้มขยายตัว ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจโลกน่าจะเอื้ออำนวยมากขึ้น หลังผลกระทบเชิงลบจากอุตสาหกรรมเหมืองแร่เริ่มอ่อนแรงลง
นอกจากนี้ แบงก์ชาติออสเตรเลียยังคาดการณ์ว่า การอุปโภคบริโภคน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงกลางปี 2559 ที่ค่อนข้างซบเซา อย่างไรก็ดี ปัญหาในแง่การเติบโตของค่าจ้างยังคงปรากฏให้เห็น เช่นเดียวกับปัญหาเงินเฟ้อ และกำลังการผลิตส่วนเกิน
ในส่วนของการเติบโตทางเศรษฐกิจ แบงก์ชาติยังคงตัวเลขคาดการณ์เดิม โดยหลังการประชุมนโยบายการเงินเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ แบงก์ชาติคาดการณ์ไว้ว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของออสเตรเลียมีแนวโน้มเคลื่อนไหวที่ระดับ 3% ในอีก 2 ปีข้างหน้า
สำหรับปีที่ผ่านมา แบงก์ชาติเปิดเผยว่า ตัวเลขการลงทุนในธุรกิจนอกภาคเหมืองแร่ได้ขยายตัวราว 5% ขณะที่อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยส่วนหนึ่งได้รับแรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ธนาคารกลางออสเตรเลียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.50% ในการประชุมเมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ นับเป็นการดำเนินการที่มีเป้าหมายเพื่อที่จะพยุงเศรษฐกิจในช่วงที่เงินเฟ้อยังคงอ่อนตัวลง
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1.50% จนถึงปลายปีนี้ โดยนายเคร็ก เจมส์ นักวิเคราะห์จากคอมเซค คาดการณ์ว่า RBA ยังไม่มีแนวโนัมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ และอาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยยาวไปจนถึงปลายปีนี้
การประชุมของ RBA ครั้งถัดไปจะมีขึ้นในวันที่ 7 มี.ค.