รายงานของกระทรวงระบุว่า ผู้บริโภคสหรัฐปรับลดค่าใช้จ่ายลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค. และนับเป็นเดือนที่ 3 ที่การบริโภคส่วนบุคคลปรับตัวลดลง นับตั้งแต่สิ้นสุดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงกลางปี 2552
นักวิเคราะห์คาดว่า การบริโภคส่วนบุคคล ซึ่งมีสัดส่วนมากกว่า 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1%
ส่วนรายได้ในเดือนก.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค. ในขณะที่ยอดการออมแตะที่ 7.322 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2555 จากระดับ 7.02 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค.
ตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้สัดส่วนการออมอยู่ที่ 5.6% เพิ่มขึ้นจากระดับ 5.4% ในเดือนส.ค.
รายงานระบุว่า การปรับตัวลดลงของการบริโภคส่วนบุคคลมีสาเหตุมาจากรายได้ที่อ่อนแอ ซึ่งไม่สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ ถึงแม้ว่าการจ้างงานในปีนี้จะแข็งแกร่งก็ตาม
นอกจากนี้ ข้อมูลดังกล่าวอาจหมายความว่า ภาคครัวเรือนมีความมั่นใจลดลง เนื่องจากตำแหน่งงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นงานพาร์ทไทม์ งานชั่วคราว หรืองานที่ไม่แรงงานขาดความถนัด ส่งผลให้ผู้หางานต้องทำงานที่ได้รับค่าจ้างต่ำ