กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐขยับขึ้น 0.1% ในเดือนมี.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ.
รายได้ส่วนบุคคลของชาวสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมี.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.พ.
ส่วนอัตราการออมเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 7.355 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2555 จากระดับ 6.964 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ.
เจย์ มอร์ล็อก นักเศรษฐศาสตร์จากเอฟทีเอ็น ไฟแนนเชียล กล่าวว่า อัตราการออมอยู่ในระดับสูง เนื่องจากการจ้างงานและการเติบโตของรายได้ทำให้ผู้บริโภคมีเงินในกระเป๋ามากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคกลับไม่ใช้จ่ายเท่าที่ควร ดังเห็นได้จากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ขยายตัวน้อยที่สุดในรอบปี ทำให้เกิดความกังวลว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาสสองอาจไม่น่าพอใจนัก หลังจากที่ผิดหวังมาแล้วกับตัวเลขจีดีพีไตรมาสแรก