คณะกรรมการกำกับดูแลภาคธนาคารของจีน (CBRC) เปิดเผยว่า สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของภาคธนาคารจีนในไตรมาส 3/2560 ยังคงทรงตัว ท่ามกลางความพยายามในการควบคุมความเสี่ยงอย่างเข้มงวดของรัฐบาล
รายงานของ CBRC ระบุว่า สัดส่วน NPL ของธนาคารพาณิชย์จีนตัวอยู่ที่ 1.74% ณ สิ้นเดือนก.ย. ซึ่งทรงตัวจากระดับของไตรมาสก่อนหน้า
จากข้อมูลของเดือนก.ย.พบว่า สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคารพาณิชย์อยู่ที่ 1.67 ล้านล้านหยวน (2.518 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 3.46 หมื่นล้านหยวน
ทั้งนี้ สัดส่วน NPL ของภาคธนาคารจีนปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2555 จนอยู่ที่ระดับปัจจุบัน ณ ไตรมาสสุดท้ายของปี 2559 ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับเศรษฐกิจจีนที่ประสบกับปัญหาหนี้สิน
อย่างไรก็ดี รัฐบาลจีนได้เล็งเห็นถึงความเสี่ยงในภาคการเงิน จึงยกระดับความพยายามเพื่อแก้ไขความผิดปกติที่เกิดขึ้นในภาคการเงิน โดยมุ่งเป้าไปที่กิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง เช่น การจัดหาเงินทุนนอกงบดุล
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า แม้ภาคธนาคารจะถูกกำกับดูแลอย่างเข้มงวดยิ่งขึ้น แต่ธนาคารรายใหญ่ของจีนอย่าง อินดัสเทรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชน่า (ICBC) ซึ่งเป็นธนาคารที่ปล่อยกู้ที่มูลค่ามากที่สุดในตลาด กลับรายงานว่า ทางธนาคารมีผลกำไรสุทธิในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 7.5 หมื่นล้านหยวน ปรับตัวขึ้นจากระดับของปีที่แล้ว 3.4%