โฆษกกระทรวงฯระบุว่า ยอดลงทุนโดยตรงในต่างประเทศของจีน (ODI) ในช่วงครึ่งปีแรกปรับตัวลง 5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยยอด ODI สะสมไม่รวมภาคการเงินของจีนอยู่ที่ 5.69 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นเดือนมิ.ย.
เฉินกล่าวว่า การปรับตัวลงของเม็ดเงินลงทุนในต่างประเทศของจีนมีสาเหตุหลักมาจากปัจจัยต่างๆเช่น ภาวะแวดล้อมภายนอกอันเนื่องมาจากความเป็นพลวัตของเศรษฐกิจโลก การไหลเวียนของเงินทุนต่างชาติ การเพิ่มลัทธิคุ้มครองทางการค้าในธุรกิจบางประเภท และการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการลงทุนในต่างประเทศของจีน รวมถึงจากปัจจัยทางเทคนิคอย่างฐานเงินลงทุนในระดับสูง อุปสรรคด้านเศรษฐกิจมหภาค ความผันผวน 2 ทางของอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวน และการปรับตัวลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์จำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่า ยอดเงินลงทุนในต่างประเทศของจีนมีแนวโน้มขยายตัวประมาณ 10% เทียบเป็นรายปี สำหรับตลอดปี 2557
นักธุรกิจจากจีนแผ่นดินใหญ่ทุ่มงบลงทุน 2.8282 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา รัสเซีย และญี่ปุ่น ในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 66.5% ของเม็ดเงินลงทุนทั้งหมดในต่างประเทศ โดยปรับตัวลง 4.2% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปี 2556
ทั้งนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าว ODI ในฮ่องกงลดลง 29% เทียบเป็นรายปี ขณะที่ยอดลงทุนในสหรัฐอเมริกา และรัสเซีย ทะยานขึ้น 221.7% และ 109.5% ตามลำดับ สำนักข่าวซินหัวรายงาน