นายหลี่ชี้ว่า อัตราดอกเบี้ยจีนจะยุติแนวโน้มช่วงขาขึ้น หลังจากช่วงแรกของการเปิดเสรีในช่วงแรก เนื่องจากบริษัทต่างๆในเศรษฐกิจที่แท้จริงไม่สามารถรับมือกับระดับปัจจุบันได้
"อัตราดอกเบี้ยและตลาดหุ้นนั้นมีความเกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิด" นายหลี่ กล่าว "โดยตลาดหุ้น A-share ที่ซบเซาหลังปี 2552 มีสาเหตุส่วนหนึ่งจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น"
นักเศรษฐศาสตร์รายนี้คาดการณ์ว่า "ตลาดหุ้นจะกลายเป็นจุดหมายการลงทุนหลักในอนาคต ขณะที่จะมีการถอนเงินทุนจำนวนมากออกจากตลาดการเงินและทรัสต์"
ด้านธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดเงินเป็นจำนวน 5 แสนล้านหยวน (8.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) สู่ธนาคารรายใหญ่ที่รัฐบาลดำเนินการ 5 รายของจีน ซึ่งนายหลี่มองว่าอาจเป็นสัญญาณที่จะนำไปสู่แนวโน้มขาลงของอัตราดอกเบี้ย
เขาได้เรียกร้องให้มีการเร่งรัดกระบวนการจัดตั้งหน่วยงานระดมทุนระดับท้องถิ่น ตลอดจนการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจจีน เพื่อผลักดันการเปิดเสรีด้านอัตราดอกเบี้ย สำนักข่าวซินหัวรายงาน