“ความเสี่ยงจากภายนอก ซึ่งรวมไปถึงการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณของสหรัฐ การอ่อนค่าลงของเงินเยนญี่ปุ่น และความไม่สงบทางการเมืองในตะวันออกกลาง ได้เพิ่มมากขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจภายในประเทศยังประสบความยากลำบากอย่างต่อเนื่อง อันเนื่องมาจากบรรยากาศการลงทุนย่ำแย่และการฟื้นตัวที่เชื่องช้าในด้านการบริโภค" รายงานระบุ
ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือนที่กระทรวงได้หยิบยกประเด็นเงินเยนอ่อนค่าให้เป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ
แนวโน้มการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลมาจากการคาดการณ์เกี่ยวกับปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ของสหรัฐนั้น ได้ส่งผลให้ทั้งเงินวอนเกาหลีใต้และเยนญี่ปุ่นปรับตัวลง แต่เงินเยนได้อ่อนค่าลงในอัตราที่รวดเร็วกว่าสกุลเงินวอน
อัตราแลกเปลี่ยนเงินวอน/เยนเมื่อไม่นานมานี้ได้เคลื่อนไหวใกล้เคียงกรอบ 9.5 วอน/เยน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2551
บรรดานักวิเคราะห์ต่างคาดกันโดยทั่วไปว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดกันไว้ และธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) อาจจะยังคงเดินหน้าซื้อทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนำไปสู่กระแสคาดการณ์ว่าเงินเยนอาจจะอ่อนตัวลงต่อไปอีกในอนาคต
กระทรวงการคลังเกาหลีใต้มีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยระบุว่าแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังคงเปราะบาง อันเนื่องมาจากแนวโน้มราคาที่อยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง และการปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือนของผลผลิตภาคอุตสาหกรรม
ดัชนีราคาผู้บริโภคของเกาหลีใต้ในเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.1% จากปีก่อน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1.4% ในเดือนส.ค.
ส่วนผลผลิตในภาคเหมืองแร่และภาคการผลิตหดในเดือนส.ค.ตัวลง 3.8% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 3 เดือน สำนักข่าวซินหัวรายงาน