ขณะเดียวกัน รายงานระบุว่า ธนาคารกลางจีนไม่ควรดำเนินการแทรกแซงโดยตรงมากจนเกินไป ในแง่ความเสี่ยงสภาพคล่องระดับภูมิภาค
รายงานดังกล่าวแสดงทัศนะว่า เศรษฐกิจจีนจะเผชิญแรงกดดันช่วงขาลงค่อนข้างหนักในปี 2558 จึงจำเป็นต้องมีการเสริมสร้างนโยบายการเงินเพื่อรับมือผลกระทบเชิงลบจากค่าเงินฝืด เพื่อที่จะรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนให้อยู่ในระดับประมาณ 7%
ทั้งนี้ CASS คาดว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจะประกอบไปด้วย การปรับเพิ่มเป้าหมายการขยายตัวของปริมาณเงินตามความหมายกว้าง หรือ M2 เป็นประมาณ 14% ในปี 2558 จากเพดานปัจจุบันที่ 13% และโควตาการปล่อยกู้เงินหยวนล็อตใหม่ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 11 ล้านล้านหยวน จาก 10 ล้านล้านหยวน
นอกจากนี้ ยังเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางจีนจะลดอัตราดอกเบี้ยประมาณ 2 ครั้ง หากการขยายตัวของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ยังคงอยู่ที่ราว 1% เพื่อช่วยลดต้นทุนทางการเงินของผู้ประกอบการ และอาจมีการปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) สำหรับเงินฝาก (ซึ่งรวมถึงการปรับลด RRR ทางตรง) หากยอดเกินดุลชำระเงินระหว่างประเทศลดลง เพื่อเป็นการลดแรงกดดันด้านสภาพคล่องของสถาบันทางการเงิน สำนักข่าวซินหัวรายงาน