รายงานหัวข้อ Global Powers of Retailing ของดีลอยท์ระบุว่า ในปี 2557 ออสเตรเลียมีบริษัทค้าปลีกจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น 3% คิดเป็นสัดส่วนทั้งสิ้น 15% ของทั้งตลาดออสเตรเลีย
ปัจจุบัน บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของโลก 37 รายจากทั้งหมด 250 ราย มีการดำเนินธุรกิจในออสเตรเลีย ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากจากปีก่อนหน้า
ออสเตรเลียมีแบรนด์ต่างประเทศเข้ามาเปิดสาขาใหม่เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์แฟชั่น H&M จากสวีเดน แบรนด์เสื้อผ้า Uniqlo จากญี่ปุ่น แบรนด์ Forever 21 จากสหรัฐ และแบรนด์เครื่องสำอาง Sephora จากฝรั่งเศส
รายงานดังกล่าวชี้ว่า ออสเตรเลียจะมีแบรนด์ต่างชาติเข้ามาแข่งขันเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะมีแบรนด์จีนเข้ามาทำตลาดอย่างคึกคักในอนาคตอันใกล้
รายงานระบุว่า "ปัจจุบันมีบริษัทจีนเพียง 8 รายที่ติดอันดับ 250 ราย ซึ่งไม่มีบริษัทใดดำเนินธุรกิจในออสเตรเลีย"
"เนื่องจากจีนมีจำนวนชนชั้นกลางเพิ่มขึ้น และตลาดค้าปลีกในประเทศมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ดังนั้นคงเป็นเรื่องของเวลาที่จะได้เห็นบริษัทค้าปลีกจีนติดอันดับ 250 แบรนด์ใหญ่มากขึ้น และแน่นอนบริษัทเหล่านี้ก็จะเข้ามาทำตลาดในออสเตรเลีย"
รายงานจากดีลอยท์แสดงให้เห็นถึงอนาคตที่น่าเป็นห่วงสำหรับผู้ค้าปลีกออสเตรเลีย ซึ่งมีเพียงบริษัท Woolworths และ Wesfarmers เท่านั้นที่ติดอันดับผู้ค้าปลีก 250 อันดับแรกของโลก
ในขณะเดียวกัน การที่บริษัทแอฟริกาใต้ได้เข้าซื้อกิจการที่เดิมเป็นของออสเตรเลียอย่าง David Jones และ Country Road ก็ได้เพิ่มความวิตกต่อวงการค้าปลีกออสเตรเลีย
รายงานระบุว่า "สิ่งที่วงการค้าปลีกออสเตรเลียควรวิตกก็คือข้อมูลที่ว่า 85% ของผู้ค้าปลีก 250 อันดับแรกนั้นไม่ได้มีการดำเนินธุรกิจในออสเตรเลีย ซึ่งหมายความว่าการแข่งขันมีแต่จะสูงขึ้น"
ทั้งนี้ บริษัทจำนวนหนึ่งจากกลุ่มผู้ค้าปลีกรายใหญ่ 213 รายที่เหลือ น่าจะเข้ามาทำธุรกิจในออสเตรเลียมากขึ้นภายในสิ้นปี 2558 โดยคาดว่าแบรนด์ Marks and Spencer ของอังกฤษ และแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ Ashley Furniture จากสหรัฐ จะมาทำตลาดออสเตรเลียในปีนี้
รายงานดังกล่าวคาดการณ์ว่า "เนื่องจากมีแบรนด์ระดับโลกหลายรายเข้ามาทำตลาดมากขึ้น อีกทั้งมีการขยายธุรกิจกว้างขึ้น ดังนั้นธุรกิจค้าปลีกออสเตรเลียทุกประเภทจะเผชิญกับปัญหาท้าทายและการแข่งขันที่สูงขึ้นตาม" สำนักข่าวซินหัวรายงาน