นายกอร์สกี้กล่าวให้สัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าวซินหัวว่า "ผมเชื่อว่าคุณต้องมองในระยะยาว ซึ่งเป็นวิธีที่เรากำลังใช้"
การแสดงความเห็นนายกอร์สกี้มีขึ้นหลังจากบริษัทข้ามชาติหลายแห่งเตรียมย้ายฐานออกจากจีน โดยเมื่อเร็วๆนี้ไมโครซอฟต์ประกาศว่า บริษัทจะปิดสายการผลิตโทรศัพท์มือถือในจีน ขณะที่ยาฮูจะปิดสำนักงานในจีน และซิติเซนซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตนาฬิกาของญี่ปุ่นได้ปิดโรงงานในเมืองกวางโจวเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา
รายงานระบุว่า โรงงานเสื้อผ้าและรองเท้าในภาคใต้ของจีนต่างก็เตรียมย้ายฐานการผลิตออกไปจากประเทศ
การย้ายฐานการผลิตมีขึ้นในช่วงที่รัฐบาลจีนปรับลดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจสำหรับปี 2558 ลงเหลือ 7% จาก 7.5% ซึ่งเป็นเป้าหมายที่เกือบจะทำได้ในปีที่ผ่านมา โดยหลังจากที่มีอัตราการขยายตัวในระดับสูงติดต่อกันเป็นเวลาหลายทศวรรษ เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของจีนได้หันมาผลักดันเศรษฐกิจในรูปแบบ "ดุลยภาพใหม่" ที่มีอัตราการขยายตัวในอัตราที่ต่ำลงแต่มีเสถียรภาพมากขึ้น
อย่างไรก็ดี นายกอร์สกี้รู้สึกพอใจที่จีนสามารถผ่านพ้นช่วงที่ยากลำบากไปได้ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับบริษัทข้ามชาติ รวมถึงจอห์สัน แอนด์ จอห์นสัน
"เศรษฐกิจจีนกำลังอยู่ในระยะเปลี่ยนผ่านไปสู่ดุลยภาพใหม่และกำลังเกิดปรากฎการณ์ใหม่ๆในขณะเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น เราได้เห็นความเฟื่องฟูของชีววิทยาศาสตร์ในระบบเศรษฐกิจ เรากำลังลงทุนเพื่อสนับสนุนให้จีนเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมระดับโลก" นายกอร์สกี้ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการรณรงค์ด้านสาธารณสุขในปักกิ่งกล่าว
นายกอร์สกี้เชื่อว่า เป้าหมายอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนนั้นจะส่งผลดีและมีความสมเหตุผล "ด้วยการปรับโครงสร้างและสัดส่วนด้านการพัฒนา จีนจะขยายตัวในเชิงวิทยาศาสตร์และมีความเป็นอัจฉริยะมากขึ้น" สำนักข่าวซินหัวรายงาน