นายหลูเปิดเผยท่าทีของจีนในระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัว นอกรอบการประชุมประจำฤุดูใบไม้ผลิของธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ซึ่งเพิ่งปิดฉากลงเมื่อเร็วๆนี้
นายหลูให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลสหรัฐวางให้โครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยีที่สำคัญๆ และความมั่นคงแห่งชาติอยู่ในรายชื่อภาคธุรกิจห้ามลงทุน ในขณะที่ของจีนไม่ได้ห้ามการลงทุนในภาคธุรกิจเหล่านี้
รมว.คลังจีนระบุว่า ฝั่งสหรัฐไม่ได้ให้นิยามที่เจาะจงของข้อกำหนดดังกล่าว พร้อมกันกับสงวนสิทธิ์ในการระงับโครงการซึ่งลงทุนโดยชาวจีนในระยะใดก็ได้ ฝั่งสหรัฐยังกำหนดเงื่อนไขว่า ต้นทุนที่เกิดขึ้นตามมานั้น นักลงทุนควรเป็นผู้รับผิดชอบ
"การกำหนดเงื่อนไขนี้ทำให้เกิดความไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้นสำหรับนักลงทุนชาวจีนในสหรัฐ และทำให้เราไม่สบายใจเป็นอย่างมาก" รมว.คลังจีนเปิดเผยโดยไม่ได้กล่าวอะไรเพิ่มเติม
ทั้งนี้ การหารือเรื่อง BIT นี้ดำเนินมาตั้งแต่ปี 2551 เนื่องจากทั้งสองประเทศแสวงหาแนวทางที่จะเพิ่มการลงทุนระหว่างกัน ซึ่งเป็นสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับการลงทุนในประเทศอื่นๆของสหรัฐและจีน
นายจู กวงเยา ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการคลังจีนเปิดเผยที่กรุงวอชิงตันเมื่อวันศุกร์ว่า จีนได้กำหนดรายชื่อภาคธุรกิจที่ต่างชาติห้ามเข้ามาลงทุนในเขตการค้าเสรีในเมืองเซี่ยงไฮ้ เมืองเทียนจิน มณฑลกวางตุ้ง และมณฑลฝูเจี้ยน แต่สำหรับรายการธุรกิจห้ามลงทุนซึ่งเสนอขึ้นเพื่อการหารือ BIT นี้ จะตัดสินใจจากการหารือระหว่างจีนและสหรัฐ
ขณะที่นายไมเคิล ฟอร์แมน ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัวเมื่อวันศุกร์ว่า เขาคาดว่าสองฝ่ายจะแลกเปลี่ยนรายชื่อภาคธุรกิจที่ห้ามลงทุนในเร็วๆนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน